‘พิศิษฐ์’ อดีตผู้ว่าฯ สตง. รับหาที่ดินสร้างตึกใหม่ ปัดเอี่ยวออกแบบ-แจงภาพร่วมเฟรมชาวจีน

วันนี้ (30 เม.ย. 68) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมประชุม กมธ. เพื่อตรวจสอบกรณีโครงสร้างอาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่พังถล่ม
นายพิศิษฐ์ ชี้แจงถึงบทบาทในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ สตง. (ปี 2557-2560) ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนการเลือกและกำหนดที่ดินแปลงปัจจุบันเพื่อใช้ก่อสร้างอาคาร เนื่องจากต้องการหาที่ตั้งที่เหมาะสม แก้ปัญหาน้ำท่วมและการเดินทาง ส่วนขั้นตอนหลังจากได้ที่ดินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการนำแบบแปลนเดิมมาใช้หรือออกแบบใหม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหาร สตง. ชุดต่อมา เนื่องจากตนเองได้พ้นจากตำแหน่งไปก่อน
อดีตผู้ว่าการ สตง. กล่าวว่า การเดินทางมาชี้แจงต่อ กมธ. ครั้งนี้ หากเป็นประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเก่า โดยเฉพาะช่วงก่อนการออกแบบและก่อสร้าง ก็พร้อมให้ข้อมูลในฐานะที่เคยมีส่วนร่วมในการเลือกที่ดิน
สำหรับกรณีที่ปรากฏภาพถ่ายร่วมกับชายชาวจีน 2 คน คือ นายปิง ลินวู และนายหลง เฉวียนวู ในพิธีลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. นั้น นายพิศิษฐ์ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ สตง. ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว ซึ่งคือ กิจการร่วมค้าของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด ส่วนบุคคลทั้งสองที่ปรากฏในภาพเป็นใคร มาในฐานะใด หรืออาจเป็นการแอบอ้างเข้ามาถ่ายรูปหรือไม่นั้น ณ เวลานั้นตนเองไม่ทราบและดูไม่ออก ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และในขณะนั้นไม่ได้เอะใจว่าการปรากฏตัวของบุคคลดังกล่าวอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนแอบแฝง
นายพิศิษฐ์ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์กิจการร่วมค้า (Joint Venture) ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ ว่า กิจการร่วมค้าสามารถเข้าร่วมประมูลได้ โดยบริษัทหลักที่เป็นนิติบุคคลไทยต้องมีผลงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของวงเงิน ส่วนผู้ร่วมค้าสามารถเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในไทยและทำสัญญาร่วมค้าเพื่อเสนอราคาได้ ส่วนประเด็นการตรวจสอบนอมินีที่อาจแอบแฝงนั้น ในขณะนั้นยังไม่มีระเบียบให้ต้องตรวจสอบในเชิงลึก ซึ่งการพิสูจน์เรื่องนอมินีต้องอาศัยการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ไม่สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า นอกจากนี้ หากพบว่าผู้เข้าแข่งขันประมูลมีการสมยอมราคา (ฮั้ว) หรือมีความสัมพันธ์เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน ก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุด นายพิศิษฐ์ ยืนยันว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการออกแบบอาคาร ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2561-2562 และขั้นตอนการทำสัญญาในปี 2563-2564 เนื่องจากได้พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการ สตง. ไปแล้ว 3-4 ปี นับตั้งแต่เสร็จสิ้นขั้นตอนการเลือกพื้นที่ก่อสร้าง