ทนาย ‘สามารถ‘ เตรียมยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัว ‘สามารถ‘ ยัน มีพยานเป็น อดีต สส. – อดีตรอง ผบ.ตร. ที่ร่วมทริปทำบุญ
วันนี้ (28 พ.ย. 67) เวลา 09:55 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ให้สัมภาษณ์ภายหลัง เข้าเยี่ยมนายสามารถ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ว่า นายสามารถ ต้องเข็นรถวีลแชร์มาพบตนพร้อมเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ วันนี้มีภาวะน้ำตาลตก แพทย์ต้องให้จิบน้ำหวานตลอด ส่วนอาหาร และน้ำอื่นๆ นายสามารถยังคงอดตามเจตนารมณ์ของตนเองอยู่
อีกทั้ง ร.อ.ธีรศานต์ และครอบครัวของนายสามารถ พยายามบอก และขอให้นายสามารถกินอาหาร เพราะยิ่งสุขภาพถดถอยก็ยิ่งทำให้การทำงานการสู้คดียากยิ่งขึ้น หากวิกฤตถึงเสียชีวิตก็ไม่เป็นผลดี และส่วนตัวมองว่าการเรียกร้องความยุติธรรม ควรต้องมีชีวิตเหลืออยู่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่นายสามารถยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของตนเอง และยังยืนยันว่า “ยอมตายในคุก ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม”
ส่วนแนวทางการต่อสู้คดี ร.อ. ธีรศานต์ กล่าวว่า คดีฟอกเงินต้องไปดูความผิดมูลฐานแต่ในคดีดิไอคอน ความผิดยังไม่มีการตัดสิน ฉะนั้นจะแจ้งข้อหาการฟอกเงินไม่ได้ ส่วนที่มีการคัดค้านการประกันตัว เพราะ เกรงว่านายสามารถจะยุ่งเหยิงพยาน ร.อ.ธีรศานต์ ยืนยันว่า มีการอายัดบัญชีไว้หมดแล้ว ไม่สามารถโอนเงินเข้าออกได้ ยุ่งเหยิงไม่ได้
ส่วนเรื่องการหลบหนี ตามบันทึกการจับกุม ที่ สภ.แม่ยาว ระบุว่า เป็นการมอบตัว แต่ ดีเอสไอ กลับไปยื่นคำร้องฝากขังว่ามีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งการไป จ.เชียงราย มีพยานมีอดีตข้าราชการ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีต สส. ร่วมไปด้วย ที่พร้อมจะเป็นพยาน และวัดห้วยปลากั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน ซึ่งหากจะหลบหนี ตนมองว่าจังหวัดเชียงรายไม่เหมาะสม เพราะมีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนอย่างแน่นหนา โดยวันดังกล่าว นายสามารถได้คุยกับ ผอ.กองคดีฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าจะเดินทางไปมอบตัว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไปทำบุญที่วัดห้วยปลากั้งมีใบอนุโมทนาบุญด้วยหรือไม่ ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ต้องดูเรื่องของเส้นเงิน แต่สิ่งที่สังคมกำลังพูดถึงคือเรื่องของการหลบหนี ซึ่งหากวันนั้นมีประชาชนหรือพระ เห็นก็แสดงให้เห็นแล้วว่านายสามารถไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี และนายสามารถก็เคยเดินทางมาทำบุญที่วัดนี้แล้ว ส่วนที่บอสพอลเคยโอนเงินทำบุญวัดนี้ด้วยหรือไม่ตนเองตอบไม่ได้ และต้องไปเทียบช่วงเวลาการโอนเงินก่อน
สำหรับประเด็นเรื่อง เอกสารการกู้ยืมเงิน และการทำบุญระหว่างนายสามารถกับบอสพอล ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสตรวจพบภายในบ้านพักของนายสามารถ ระบุวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ว่านายสามารถ และบอสมีการคืนเงินที่ยืมกัน ชดใช้กันหมดแล้ว ประเด็นดังกล่าว ตนมองว่า บอสพอลให้เซ็นเพื่อไม่ให้เป็นการฟ้องร้องทางแพ่งต่อกัน ระหว่างบอสพอล และนายสามารถ ส่วนประเด็นดังกล่าวที่ดีเอสไอ จะนำไปเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน
เมื่อถามว่าการกู้ยืมเงิน ตั้งแต่ช่วงปี 2564 แต่ทำไมถึงมาเซ็นเมื่อ 12 พ.ย.ปี67 ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบว่าทำไม แต่ในกรณีแบบนี้ก็มีเยอะในกลุ่มเจ้าหนี้ลูกหนี้ มองว่า เป็นการตัดอำนาจเรื่องของการฟ้องแพ่งระหว่างกัน อีกทั้งช่วงปี 2564 นายสามารถไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมือง เพราะมีราชกิจจานุเบกษาให้นายสามารถออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ส่วน ที่อยู่ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐนั้น ไม่ใช่ข้าราชการทางการเมือง เป็นเพียงสมาชิกพรรค
ทั้งนี้ ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวอีกว่า คดีฟอกเงิน มีเส้นเงินอยู่ 2.5 ล้าน แต่ความเสียหายที่ดีเอสไอตั้งไว้คือ 2,900 ล้านบาท ซึ่งหากดูปริมาณความเสียหายกับยอดเงินของฝั่งนายสามารถ เทียบกันไม่ได้เลย เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายฟอกเงินคือ การรวบรวมเงินคืนผู้เสียหาย จึงมองว่า การทำคดีนี้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะมาวิ่งตามเงินเล็กๆ ทั้งที่เงินใหญ่ๆ ก็มี ถึงเวลาหากคดีจบตัดสินจริง ผู้เสียหายก็ไม่รับการเยียวยา
อย่างไรก็ตาม ทีมทนายความจะมีการไปยื่นคำร้องอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราวนายสามารถ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งจะนำหลักฐานที่คุยกับ ผอ.กองคดีฟอกเงินทางอาญา เป็นคลิปเสียงยืนยันว่า ไม่ได้หลบหนี และจะไปมอบตัว รวมถึงประวัติการรักษาใช้ประกอบการยื่นคำร้องด้วย ส่วนหลักทรัพย์ที่จะยื่นนั้น ใช้เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 1.2 ล้านบาท พร้อมขอให้ศาลติดกำไล EM