ป.ป.ส.แถลงจับเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ยึดยาไอซ์กว่า 1.2 ตัน
ป.ป.ส.แถลงสกัดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมยึดของกลางยาไอซ์กว่า 1.2 ตัน ขณะเตรียมลักลอบข้ามแดนไปยังมาเลเซีย พบข้อมูลเตรียมการขนขึ้นเรือก่อนส่งไปปลายทางที่ออสเตรเลีย อยู่ระหว่างเร่งล่าตัวผู้รวมขบวนการ 3 คน
วันนี้ (29 พ.ค. 66) เวลา 10:00 น. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วยหน่วยที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ผู้แทนจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เป็นต้น แถลงผลการสกัดจับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ และยึดของกลางไอซ์ 1.2 ตัน พร้อมรถ 3 คัน เป็นรถกระบะ 2 คันถูกดัดแปลงช่องลับสำหรับซุกซ่อนยาเสพติด ก่อนลำเลียงยาเสพติดเพื่อไปส่งยังปลายทางที่ประเทศออสเตรเลีย
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่สืบทราบข้อมูล ว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ไปเก็บในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเตรียมที่จะส่งไปยังประเทศมาเลเซีย และจะนำขึ้นเรือเพื่อส่งต่อไปยังปลายทางประเทศออสเตรเลีย จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรีย์ 19 บูรณาการกำลัง สืบสวนติดตามขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้
จากนั้นในช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 พบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 3 คัน จอดไว้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลทุ่งขมิ้น อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบไอซ์จำนวน 900 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกระสอบเตรียมที่จะลำเลียงส่งต่อ
นอกจากนี้ยังตรวจพบไอซ์เพิ่มอีก 300 กิโลกรัม ซุกซ่อนในรถยนต์กระบะที่ดัดแปลงทำช่องลับจำนวน 2 คัน รวมไอซ์ที่ตรวจยึดได้จำนวนทั้งหมด 1,200 กิโลกรัม ส่วนผู้ต้องหาไหวตัวทัน อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการ สืบสวนติดตาม ผู้ต้องหาที่หลบหนี เบื้องต้นพิสูจน์ทราบได้ 3 คน จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสารดังกล่าวเพื่อยืนยันว่าเป็นยาไอซ์ ซึ่งนำของกลางผสมเข้ากับสารเคมีชนิดหนึ่ง จึงเปลี่ยนสีไปเป็นสีส้มและน้ำตาลเข้ม ซึ่งเป็นการยืนยันว่าของกลางที่ตรวจพบมีสารเมตแอมเฟตามีน ซึ่งไอซ์จะมีความเข้มมากกว่ายาบ้า
นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. กล่าวว่า รถกระบะทั้งสองคันที่ตรงจยึดได้ ถูกดัดแปลงเพื่อซุกซ่อนยาเสพติดข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองคันมีใบอนุญาตผ่านแดน ถูกดัดแปลงจนถังน้ำมันเล็กลง วิ่งได้ระยะทางเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น เพื่อใช้ขนไอซ์ข้ามชายแดนใต้ให้ได้มากที่สุด หลังจากรับไอซ์มาจากกลุ่มขนส่งของพื้นที่ภาคกลาง เมื่อผ่านไปยังมาเลเซีย จะถูกส่งต่อทางเรือ อาจใช้วิธีส่งปะปนไปในรูปแบบพัสดุผ่านเรือสินค้า หรืออาจจะใช้เรือประมงไปส่งต่อให้เรือลำใหญ่กลางทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลผู้ต้องหา 3 คน ที่เตรียมขนไอซ์ข้ามแดนแล้ว เตรียมดำเนินรวบรวมหลักฐานการออกหมายจับ เช่นเดียวกับกลุ่มที่ขนยาเสพติดจากภาคกลาง ยังอยู่ระหว่างสืบสวนหาข้อมูลเพื่อดำเนินคดีเช่นกัน
ด้านนายวิชัย กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีสถานะเป็นทางผ่านในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจาก สามเหลี่ยมทองคำไปยังประเทศที่3 ดังนั้น จึงต้องมีบูรณาการผนึกกำลังอย่างเข้มข้นเพื่อสกัดกั้นและจับกุม กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งนอกจากการเฝ้าระวังบริเวณชายแดน เรายังเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานยาเสพติดต่างประเทศ เพื่อประสานข้อมูลการข่าวในการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ และการสกัดกั้นการขนส่งยาเสพติดสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ในทุกรูปแบบทุกช่องทาง รวมถึงการสืบสวนขยายผล และการทำลายเครือข่ายยาเสพติดด้วยการยึด อายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด เพื่อทำลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
ทั้งนี้ นายวิชัย กล่าวในตอนท้ายว่า จากการตรวจยึดยาเสพติดในครั้งนี้สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานข้อมูล ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย (Narcotics Crime Investigation Department: NCID) เพื่อร่วมสืบสวนขยายผลและแลกเปลี่ยนข่าวสารเครือข่ายผู้รับยาเสพติดในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถ จับกุม และทลายเครือข่ายดังกล่าวได้ โดยที่ผ่านมาประเทศไทยและมาเลเซีย ได้มีประชุมร่วมกันถึงการยกระดับความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างไทย-มาเลเซียเพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามยาเสพติดและ การบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงการขยายผลเครือข่ายการค้ายาเสพติดพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และอาชญากรรมข้ามชาติ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่3 ได้อย่างมีประสิทธิภาพร่วมกันต่อไป













