ป.ป.ส. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ กองกำลังผาเมือง จ.เชียงราย หลังซีลชายแดนเพิ่ม

วันนี้ (29 มี.ค. 67) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และคณะ เดินทางไปดูการปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด ที่ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นที่ตั้งของ หน่วยกองกำลังป้องกันแนวชายแดน กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ตั้งอยู่ตรงรอยต่อประชิดกับแนวเขตชายแดนประเทศไทย-เมียนมา เพื่อศึกษาปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด พร้อมทั้งพาไปดูจุดการสกัดกั้นเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด ที่แบ่งกระจายตามแนวสันเขา โดยมีรายงานผลการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ของฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 ถึง 21 มีนาคม 2567 มีการจับกุม 12 ครั้ง ผู้ต้องหา 12 ราย ปะทะ 1 ครั้ง ของกลางยาบ้า 527,968 เม็ด เฮโรอีน 106.5 กรัม ฝิ่น 16 กรัม

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) โดยมีแม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นผู้บัญชาการ นบ.ยส.35 ซึ่งฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบนี้เป็นจุดหนึ่งของบริเวณชายแดนที่ นบ.ยส.35 ต้องดูแล และเป็นพื้นที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทย สาเหตุเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าภายในประเทศไทยไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติด แต่ยังคงมีอยู่ในเขตที่เรียกกันว่าสามเหลี่ยมทองคำ และมีชนกลุ่มน้อยต่างๆ มีการสู้รบกัน ส่งผลทำให้มีการลักลอบนำเข้ามาตามพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งวิธีการเคลื่อนย้ายยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคเหนือจุดยุทธศาสตร์สำคัญอีกจุดหนึ่งอยู่ที่ ดอยช้างมูบที่อยู่ติดกับฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เป็นแหล่งพักยาเสพติดขนาดใหญ่ มีช่องทางธรรมชาติให้เดินเข้าออกได้หลายช่องทาง จึงต้องจัดกำลังลาดตระเวน และซุ่มโจมตีทุกวัน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมขยายเขตพื้นที่จำเป็นเร่งด่วนในการสกัดกั้นยาเสพติดเพิ่มเติม ในในภาคเหนือ จำนวน 5 จังหวัด 6 อำเภอ (เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด 18 อำเภอ (เลย หนองคาย บึงกาฬ มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี) รวมของเดิมเป็นจำนวน 13 จังหวัด 39 อำเภอ สำหรับการสกัดกั้นยาเสพติดของหน่วย นบ.ยส.35 ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 66 – 25 มี.ค. 67 มีจำนวน 53 คดี และยึดยาบ้าได้กว่า 99.3 ล้านเม็ด

พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบนําเข้ายาเสพติดมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น จากผลการจับกุมที่ผ่านมา ล่าสุดจากการประชุมการข่าวคาดว่ามียาบ้าเตรียมลักลอบเข้าประเทศประมาณ 70-80 ล้านเม็ด บางครั้งดูตัวเลขอาจไม่น่าเชื่อ แต่นี้คือข้อเท็จจริง ส่วนเหตุผลคือเขาต้องการระบายยาเสพติด เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีวิธีลําเลียงในรูปแบบใหม่อยู่ตลอดเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งทาง พล.ท.นฤทธิ์ ยอมรับว่าไม่สามารถสกัดกั้นได้ทั้งหมด ซึ่งไม่ได้เกิดจากการสกัดกั้นไม่ดี แต่เกิดจาก Demand Supply ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลเปรียนเสมือนเขื่อนเมื่อนํ้ามามากก็มีหลุดรอดไปบ้างรวมถึงสภาพภูมิประเทศ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะทําอย่างเต็มที่ตามอํานาจหน้าที่ที่ได้รับ โดยประสานความร่วมมือกับ ป.ป.ส. และ บช.ปส. รวมไปถึงด้านเครื่องมีเทคโนโลยีก็มีการนํามาใช้ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

ในปีนี้ทางรัฐบาลได้จัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นยาเสพติดขึ้นมาเน้นพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย แต่ก็ได้มีการแจ้งไปยังหน่วยพื้นที่รับผิดชอบ จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.พะเยา ในการสกัดกั้นเพิ่มเติมกรณีเปลี่ยนเส้นทาง และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการซิลพื้นที่ชายแดนสามารถล่วยสกัดกั้นยาเสพติดได้มากน้อยเพียงใด พล.ท.นฤทธิ์ กล่าวว่า เฉลี่ยเดือนละ 20 ล้านเม็ด และเมื่อย้อนกลับไปมีคนเคยกล่าวไว้ว่าหากสามารถสกัดกั้นได้ 20 เปอร์เซ็นต์ถือว่าประสบความสําเร็จ ซึ่งปัจจุบันสามารถสกัดกั้นได้มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์

ส่วนความคืบหน้าการพูดคุยกับประเทศจีน และประเทศอินเดีย เกี่ยวกับเรื่องสกัดกั้นสารตั้งต้นของยาเสพติดที่ส่งมาให้ประเทศเพื่อนบ้านนั้น พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs : CND) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ประเทศจีนระบุว่ายินดีให้ความร่วมมือในการสกัดกั้นสารตั้งต้นผลิตยาเสพในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ทั้งตอนบนและตอนล่าง ซึ่งจะส่งผลดีกับประเทศไทยเพราะยาบ้า เมื่อไม่มีสารตั้งต้นก็ผลิตได้น้อยลง