‘แซน – กระติก’ ฝากถึง ทนายคนดัง ดูแลลูกความยังไง ให้ได้ข้อหาเพิ่ม?
‘แซน – กระติก’ มาศาลสอบคำให้การ และตรวจพยานหลักฐานคดีหมิ่นประมาท ฝากถึง ทนายคนดัง ดูแลลูกความยังไง ได้ข้อหาเพิ่ม?
วันนี้ (28 มี.ค. 66) ที่ศาลอาญามีนบุรี นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ พร้อมด้วย นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน และ น.ส. อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก เดินทางมาตามนัด คดีที่ ฟ้อง นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือ จิน สามีของ หนิง ปณิตา นักแสดงสาว ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
นายพรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ศาลนัด แซน และ กระติก มาสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน ในคดีที่เป็นโจกย์ ฟ้องนายจรินทร์ สามีหนิง ปณิตา ในข้อหาหมิ่นประมาท กระบวนการในชั้นศาล หากอีกฝ่าย ต้องการที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยก็สามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายทั้งสองคนว่าจะยินยอมหรือไม่
น.ส.อิจศรินทร์กล่าวว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการเจรจาหรือพูดคุยกัน เพราะตนเองได้มอบหมายให้ทนายเป็นคนดำเนินการไปแล้ว และก่อนหน้านี้อีกฝ่าย ไม่เคยมีความพยายามติดต่อเข้ามาเคลียร์หรือไกล่เกลี่ยอะไร มีแต่โพสต์ทำให้ตัวเองเสียหาย ส่วนตัวยังไม่รู้ว่าจะไกล่เกลี่ยหรือไม่ ขอดูท่าทีของอีกฝ่ายก่อน และดูดุลพินิจของศาลด้วย ส่วนตัวเราใช้สิทธิ์ที่มีให้เต็มที่
สำหรับความคืบหน้าคดีของแตงโม ก็ไปตามนัดเท่านั้น ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลาและขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไร เพราะไม่มีอะไรหนักหนาไม่กว่าช่วงเกิดเรื่องใหม่ ๆ เวลาผ่านไป เราคุยกับทนายมากขึ้น ได้รู้ข้อกฎหมายมากขึ้น เราก็ออกไปใช้ชีวิตตามปกติ ตนเองคาดหวังว่าอยากให้คดีจบ ซึ่งอยากให้คดีจบนานแล้วเพราะทุกคนรู้ว่าความจริงคืออะไร ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่มีเรื่องฆาตกรรม ทั้งนี้ เรื่องของชาวเน็ตที่มาแสดงความเห็นแล้วทำให้ตนเองเสียหาย ก็แจ้งความไปเรื่อย ๆ ซึ่งจำไม่ได้ว่ากี่คดี แต่ยืนยันว่า เกิน 10 คน
นายวิศาพัช กล่าวว่า ข้อความที่ตนเองโพสต์ในไอจีสตอรี่นั้น ยอมรับว่าหมายถึงทนายที่เป็นข่าว อยากฝากบอกให้ทนายดูแลลูกความให้ดี ให้สมกับราคาที่ลูกความจ่าย โดยตนเอง ไม่ได้มีประสบการณ์ตรงกับทนายคนนี้ หรือเคยติดต่อ ช่วยทำคดีอะไรแต่เขาเป็นทนายของคู่ความ ที่ไม่รู้ว่าทำคดีอย่างไร ถึงทำให้ลูกความมีข้อหาเพิ่ม ซึ่งทนายของตนไม่เคยหาข้อหาเพิ่มให้ตนเองเลย แล้วก็ไม่เก็บ 3 แสนด้วย
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าเมื่อทนายความของคู่ความมีคดีแบบนี้กระทบกับคดีเราหรือเปล่าไม่นั้น ไม่กระทบ เนื่องจากเป็นคนละเรื่องกัน
