CRIME

เจ้าของร้าน ‘พิชิตชัย’ ยอมรับไฟไหม้ร้านเสียหายหนัก พร้อมเป็นโจทก์ร่วมฟ้องเรียกค่าเสียหาย

ธุรกิจเดียวของครอบครัววอดจากเพลิงไหม้ เจ้าของ ‘พิชิตชัย’ ราชวงศ์ ยอมรับใจหาย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิด หม้อแปลงมีปัญหาบ่อย พร้อมเป็นโจทย์ร่วมร้านข้างเคียงเรียกค่าเสียหาย

วันนี้ (27 มิ.ย. 65) หลังจากเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ถนนราชวงศ์ ใกล้ตลาดสำเพ็งเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย. 65) นายเกียรติศักดิ์ แซ่แต้ เจ้าของร้านพิชิตชัย หนึ่งในอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ตึกคูหาของตนเปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์เด็กอ่อน รถเข็น ขวดนม รถหัดเดิน มากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งตึกนี้เป็นของคุณพ่อที่ซื้อเอาไว้เพื่อทำธุรกิจ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ยังโชคดีที่ร้านหยุดทุกวันอาทิตย์ ทำให้ภายในร้านไม่มีใครอยู่ ซึ่งในช่วงเช้าขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่กับครอบครัว ร้านค้าข้างเคียงได้โทรมาแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น จึงรีบมาเข้ามาดู และตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เป็นธุรกิจเดียวของครอบครัวที่ทำอยู่ ไม่มีสาขา

นายเกียรติศักดิ์ ยังกล่าวต่ออีกว่าก่อนหน้านี้หม้อแปลงก็มีปัญหาบ่อย ทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาดูแลซ่อมแซมในช่วงก่อนเกิดเหตุหลายครั้ง จึงไม่น่าจะปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ ถ้าทางเจ้าหน้าที่มีความรอบคอบ รัดกุม น่าจะต้องแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง เพราะสัปดาห์ที่แล้วก็มีระเบิดไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่ได้เกิดไฟไหม้ ประเมินความเสียหายของร้านทั้งหมด ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เพราะเสียหายทั้งสต็อกสินค้า ตึกไม่สามารถซ่อมแซม รีโนเวทได้ ต้องทุบและสร้างใหม่ แต่ต้องปรึกษาทางทนายความอีกครั้ง

นายเกียรติศักดิ์ ระบุว่าขณะนี้กำลังดำเนินการในส่วนของการแจ้งความ ต้องรอดูประเมินความเสียหายก่อนจึงค่อยแจ้งทีเดียว และหากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าต้นเพลิงเกิดจากข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน จะมีการดำเนินการเรียกร้องเงินชดเชยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหากเจ้าของตึกข้างๆ จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายก็พร้อมเป็นโจทก์ร่วมฟ้องด้วย อยากให้ต่อจากนี้ทาง กฟน. ให้ความรู้ประชาชนในเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เข้าใจถึงความอันตราย การหลบเลี่ยงหากเกิดเหตุไม่คาดคิด และดูแลรับผิดชอบในส่วนที่ต้องดูแลให้ดี

“…เสียโอกาสในการค้าขาย เสียข้อมูลลูกค้า สต็อกสินค้า ตึกคงต้องทุบ อยู่มาเกือบ 40 ปีไม่เคยคาดคิด เป็นเหตุการณ์ที่เกินความคาดหมาย ใจหายมาก เครียดมาก กังวลอนาคตทางธุรกิจ ไม่มีธุรกิจสำรอง เพราะที่นี่เป็นธุรกิจหลักของครอบครัว…” นายเกียรติศักดิ์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend