CRIME

สบส. ร่วมกับ บก.ปคบ. และ อย. ทลายสถานปฏิบัติธรรม หลังอวดอ้างรักษาโรคเรื้อรังหายขาดในไม่กี่เดือน

นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า จากกรณีที่ กรม สบส.ได้รับการประสานจาก กก.4 บก.ปคบ. ให้ร่วมตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว มีการเผยแพร่ข้อมูลการที่สื่อให้เข้าใจว่าสามารถรักษาโรคเบาหวาน หรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ ได้ เช่น โรคมะเร็ง เป็นต้น อีกทั้ง มีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรของสถานปฏิบัติธรรมว่าสามารถรักษาและบรรเทาอาการได้สารพัดโรค ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกองกฎหมาย กรม สบส. ร่วมสนธิกำลังกับ กก.4 บก.ปคบ. และ อย. เข้าตรวจสอบ

จากการตรวจสอบ พบว่า สถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวมีพระภิกษุซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใช้วิธีการตรวจรักษาที่ไม่ใช่วิธีการตามหลักวิชาการทางการแพทย์ เช่น นำหินมาวนบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อวินิจฉัยโรค หรือการใช้เข็มลักษณะเข็มเย็บผ้า แทงตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย จากนั้นใช้แท่งเหล็กถูวนบริเวณแผลที่มีเลือดออก ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและแจ้งข้อหาการกระทำผิดกับผู้ต้องหา 6 ราย ในเบื้องต้น ประกอบด้วย

1.พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต”

2.พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต”

3.ประมาลกฏหมายอาญา ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาน”

4.พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ฐาน “ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต”, “ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับ”, “ร่วมกันโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ร่วมกันโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในลักษณะโอ้อวดสรรพคุณว่าสามารถบำบัดรักษา บรรเทา หรือป้องกันโรคหรือความเจ็บป่วยได้อย่างศักดิ์สิทธิ์หรือรักษาโรคให้หายขาดได้ และแสดงสรรพคุณอันเป็นเท็จ เกินความจริง”

5.พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ฐาน “ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”

นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า ขอเน้นย้ำกับประชาชนให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนเลือกรับบริการรักษาพยาบาลทุกประเภท ขอให้เลือกรับบริการจากแพทย์ และสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น อย่าหลงเชื่อการโฆษณาอวดอ้างจากสื่อโซเชียล หรือจากคำบอกเล่าจากบุคคลอื่นว่าสามารถรักษาได้สารพัดโรคเรื้อรังให้หายขาด หากพบเห็นขอให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าเป็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง ให้หลีกเลี่ยงการรับบริการ

Related Posts

Send this to a friend