CRIME

ผบช.ก. นำทีมสอบสวนกลาง แถลงความคืบหน้าคดี ‘กำนันนก’

จ่อแจ้งข้อกล่าวหา นายตำรวจทั้ง 15 นาย ภายในสัปดาห์นี้ ยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ปม บุกบ้าน ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ย้ำ ทุกงานร่วมกันได้

วันนี้ (26 ก.ย. 66) เวลา 10.30 น. ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชากลางสืบสวนกลาง (ผบช.ก.) แถลงความคืบหน้าคดีกำนันนก หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้มีการเร่งรัดประชุมหารือกับทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่เป็นไปตามข้อกฎหมายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

พล.ต.ท. จิรภพ แถลงการณ์ถึงเรื่องกรณีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ป.อาญา มาตรา 157) กล่าวว่า ในพื้นที่จัดงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด 29 คน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวน 2 คน

กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา มีจำนวน6 คน ซึ่งถูกออกหมายจับดำเนินคดีและนำตัวไปฝากขังแล้วก่อนหน้านี้

กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยทันทีขณะเกิดเหตุ จำนวน 6 คน

กลุ่มที่ 4 กลุ่มที่มีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จำนวน 15 คน

ในเบื้องต้น เชื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 15 คน ไม่หลบหนี โดยจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และทำการประสานให้เสร็จสิ้นภายในวันศุกร์นี้ (29 ก.ย. 66) สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่จับกุมผู้กระทำความผิด ที่เข้าข่ายความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ทั้ง 15 ราย คณะพนักงานสอบสวนสืบสวน จะเรียกเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาให้ทราบ โดยจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท. จิรภพ ระบุว่า เรื่องของกล้องวงจรปิดภายในบ้านและสถานที่เกิดเหตุ มีกล้องบันทึกภาพ (NVR) โดยทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สืบสวนจนพบ แล้วจึงนำส่งให้กอง พิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปทำการตรวจสอบ ซึ่งภายในพื้นที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ตามจุดต่างๆ จำนวน 15 กล้อง ตรวจสอบพบว่ามีกล้องที่เสียมานานแล้ว และกล้องที่ไม่เสียแต่ข้อมูลใน NVR ไม่ได้มีการบันทึก โดยเฉพาะกล้องหมายเลข 6 ที่ทางกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่ามีการปิดตั้งแต่เวลา 10:16 น. พร้อมระบุว่าได้ขอรับ NVR จากกองพิสูจน์หลักฐาน และมีแพลนที่จะนำไปส่งที่สำนักนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรม และประสานไปที่ต่างประเทศ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมและยืนยันว่าตรงกับที่ได้ข้อมูลจากทางกองพิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่

ในส่วนเรื่องคดีการฮั้วประมูลของกำนันนก ปัจจุบัน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ทำการสืบสวนสอบสวนคู่ขนานกันไปกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ชุดทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และหากพบการกระทำความผิดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในส่วนกรณีการโอนสำนวนคดีไปให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จากเดิมทีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า ได้ทำหนังสือขอไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เเละได้รับการอนุมติในวันเดียวกันในส่วนของคดีหลัก ซึ่งในส่วนคดีอื่นๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ตำรวจภูธร กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รอง ผบ.ตร. หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่คุมด้านงานสืบสวนก็ร่วมงานด้วยอยู่เเล้วไม่ว่าคดีจะอยู่ที่ไหน หรือหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ การทํางานเป็นการทํางานหลายฝ่าย ทั้ง รอง ผบ.ตร. ทั้งตำรวจพื้นที่ กองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เเละมีคดีมาตรา 157 ของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องกับคดีหลัก ซึ่งการที่เเยกกันทํามองว่าไม่สมเหตุสมผล เเละเสียทรัพยากร การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติโอนคดีมาก็ไม่มีปัญหา เเละควรโอนมาอยู่เเล้ว ไม่ได้ตัดสิทธิ์ในการดูคดี ซึ่ง ผบ.ตร. , รอง ผบ.ตร. หรือใครก็ตาม ก็มาช่วยดูคดีได้ ซึ่งจนถึงตอนนี้ตํารวจภูธร เเละกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ก็ยังคงช่วยสอบสวนกลางทําคดีฮั้วประมูลอยู่เช่นกัน

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยถึงกรณีการเข้าตรวจค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เมื่อวานนี้ว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เกี่ยวกับปฏิบัติการตรวจค้นบ้าน รอง ผบ.ตร. ไปจนถึงการดำเนินคดีนี้ และไม่ทราบรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่มีการเชื่อมโยงว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกเอาคืนสืบเนื่องจากการดำเนินคดีตำรวจเกี่ยวเนื่องกับกำนันนกนั้น พล.ต.ท.จิรภพ เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีมูล และย้ำว่า ตนเองกับตำรวจสอบสวนกลาง ไม่เคยมีประเด็นอะไรกับ รอง ผบ.ตร. ตนเองเน้นการทำงานเป็นหลัก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ และสามารถทำงานร่วมกันได้โดยเฉพาะในส่วนของคดีกำนันนก โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือทำให้ผู้ต้องหาทุกคนได้รับโทษทางคดี

ในส่วนที่มีตำรวจกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ หรือตำรวจคอมมานโดไปร่วมปฏิบัติการด้วยเมื่อวานนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ชี้แจงว่า แม้ในทางโครงสร้างจะอยู่ภายใต้สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ในทางปฏิบัติ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ตำรวจคอมมานโดขึ้นตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงคาดว่าเมื่อวานนี้เป็นการสั่งการโดยตรงจากข้างบนที่ไม่ได้ผ่านตน พล.ต.ท.จิรภพ จึงไม่รู้เรื่องใดๆ แต่ได้ยินมาผ่านๆ ไม่ได้รับการประสานโดยตรง

ในส่วนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปราม (ปปป.) และรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ไปร่วมปฏิบัติการเมื่อวานนี้นั้น เนื่องจากไม่มีกำลังของ ปปป. ไปร่วมด้วย จึงคาดว่าเป็นการไปส่วนตัวและตนไม่ทราบว่าท่านไปได้ยังไง พร้อมระบุ เรื่องสไตล์การทำงาน ขอว่าอย่านำไปเปรียบเทียบกับการทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะแต่ละคนมีวิธีการทำงานต่างกัน แต่ส่วนตัวเน้นทำงานเป็นหลัก จะตั้งโต๊ะแถลงเฉพาะคดีที่สำคัญเพื่อไม่รบกวนการทำงานมาก และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสามารถซักถามได้ รวมทั้งเน้นความโปร่งใส ตรงไปตรงมา ไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพล ให้เกียรติผู้เสียหาย ไม่ว่าจะรวยหรือจน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่ได้นิ่งนอนใจ เน้นย้ำว่ามีการสืบสวนสอบสวน ประชุมกับคณะทำงานทุกวัน เพื่อเร่งรัดให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน สมบูรณ์มากที่สุด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จะทำการสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส มีความเป็นมืออาชีพ และไม่ยอมให้ตำรวจไม่ว่ายศไหน รวมถึงผู้อิทธิพลใด มาวิ่งเต้นในคดีดังกล่าวอย่างแน่นอน

Related Posts

Send this to a friend