ทหารพรานจับขบวนการขนวัวข้ามแดนเมียนมา-ไทย เผยสถานการณ์วัวเถื่อนรุนแรงมากขึ้น

เมื่อเวลา 01.00 น วันที่ 25 มี.ค.67 พันเอก องอาจ สัมพันธ์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตำรวจ สภ.ท่าสองยาง ฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยางและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลาดตระเวนแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ใกล้กับหมู่บ้านพะนอคี หมู่ที่ 10 ตำบลแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้กล้องส่องเวลากลางคืนหรือกล้องอินฟาเรด และตรวจพบรถยนต์กระบะแบบมีคอกเหล็กต้องสงสัยจำนวนหลายคัน กำลังขับออกจากแนวชายแดนมุ่งหน้าไปบนถนนในหมู่บ้านพะนอคี ซึ่งคาดว่าขบวนรถยนต์กลุ่มดังกล่าวน่าจะขนสิ่งของผิดกฎหมาย

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถสกัดตรวจจับขบวนรถยนต์กระบะแบบมีคอกเหล็กได้จำนวน 8 คัน ผู้ต้องหา 8 คน พร้อมวัวบนรถยนต์จำนวน 48 ตัว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดซุ่มบนเนินเขาตรวจพบมีคนไม่ทราบฝ่ายหลายคน กำลังลักลอบขนวัวจากฝั่งประเทศเมียนมาข้ามมายังฝั่งชายแดนอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ใกล้กับจุดแรกที่ตรวจจับได้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ปรากฎว่ากลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนไหวตัวทัน หลบหนีข้ามแม่น้ำเมยหนีรอดไปได้ และเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดวัวเถือนได้เพิ่มอีกจำนวน 48 ตัว

จากนั้น ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังขนย้ายวัวทั้งสองล็อตอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบมีการลักลอบขนวัวข้ามแนวชายแดนได้เพิ่มเป็นล็อตที่สาม ในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยรอบที่สามสามารถตรวจยึดวัวเถื่อนได้เพิ่มอีกจำนวน 32 ตัว รวมวัวเถื่อนของกลางที่เจ้าหน้าที่สกัดตรวจยึดได้คืนเดียวจำนวน 128 ตัว ผู้ต้องหาในขบวนการขนวัวเถื่อนรวม 9 คน เจ้าหน้าที่จึงบันทึกวัวทั้งหมดเป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มขบวนการลักลอบขนวัวเถือนหรือวัวผิดกฎหมายกลุ่มนี้ ทำเป็นขบวนการใหญ่ มีการประสานงานระหว่างกลุ่มชายแดนสองประเทศ และมีการปรับเปลี่ยนสถานที่ขนและเปลี่ยนวิธีการลักลอบขนตลอดเวลา เพื่อป้องกันการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาได้รับการว่าจ้างให้ลักลอบขนย้ายวัวผิดกฎหมายรอบละ 4,000 บาทขนจากแนวชายแดนไปส่งคอกพักที่หัวเมืองชั้นใน ไม่ทราบจุดส่งที่แน่นอน

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดในข้อกล่าวหาลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ในเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ชนิดปากและเท้าเปื่อยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ประจำท้องที่ ความผิดตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 จึงได้ยึดวัวของกลางดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป