CRIME

‘อัจฉริยะ’ เผย เคลียร์ใจกับ ‘หนุ่ม กรรชัย’ แล้ว ยันไม่เปิดคลิปให้ ‘ทนายตั้ม’ ดู

‘อัจฉริยะ’ ร้องปปป. เอาผิดตำรวจที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีแตงโม นำคลิปจำลองเหตุการณ์ให้นิติเวชดู เผย เคลียร์ใจกับ ‘หนุ่ม กรรชัย’ แล้ว ยันไม่เปิดคลิปให้ ‘ทนายตั้ม’ ดู จี้ ตำรวจเร่งตรวจสอบคราบเลือดบนเรือ

วันนี้ (24 มิ.ย. 65) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรวมช่วยเหลืออาชญากรรม เดินทางมายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะเกษม​ และ​พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ​ ในข้อหาร่วมกันที่เป็นเจ้าพนักงานรู้หรืออาจรู้ความลับในราชการกระทำโดยประการใดๆอันมิชอบหน้าที่ ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับคดีแตงโม

นายอัจฉริยะ ระบุว่า วันนี้มาร้องทุกข์กล่าวโทษในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำคลิปหลักฐานการจำลองเหตุการณ์ของบาดแผล โดยนำใบพัดไปชนกับขา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี และเป็นบุคคลภายนอก อีกทั้งในส่วนของคลิป และหลักฐานอื่น ๆ ที่มีการส่งให้หมอนิติเวชนั้นถือว่าเป็นความลับทางราชการ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และมาตรา 164 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน รู้หรืออาจรู้ความลับในราชการ กระทำโดยประการใด ๆ อันมิชอบด้วยหน้าที่ ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คำพิพากษาที่เกี่ยวข้อง

นายอัจฉริยะ ยังระบุต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำตามหน้าที่ และหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณากับตน ซึ่งก่อนออกรายงานโหนกระแส ทางตำรวจจะนัดไปพบอัยการ ตนก็ไม่เข้าใจ เพราะยังไม่มีการสอบปากคำ หรือสอบพยานกับตนเลย แต่กลับให้ไปเข้าพบกับอัยการ โดยตนมองว่าทางตำรวจคงมีธงที่จะฟ้องตนอยู่แล้ว รวมถึงทุกคดีนั้นมีการเร่งรัดคดีเพื่อให้ตนเข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งตนยืนยันว่า ตนจะเดินทางไปก่อนแน่นอน เพราะตนมั่นใจว่าตนนั้นไม่ได้กระทำความผิด เพื่อไม่ให้พนักงานสอบสวนที่ทำคดีของตนนั้นถูกกดดัน

ตั้งแต่ตนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีแตงโม ตนนั้นได้รับหมายเรียก จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว 6 คดี โดย แบ่งเป็น คดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับตน 4 คดี และ คดีที่ทนายเดชา ดำเนินคดีกับตนอีก 2 คดี ซึ่งตนนั้นไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร หากมีการแจ้งคดีเพิ่ม ตนพร้อมเดินหน้าสู้ และมั่นใจว่ายุคนี้ตนนั้นสู้ได้ ถ้าเทียบกันเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ตนนั้นยังไม่รู้เรื่องกฎหมาย และมั่นใจว่าตนนั้นสามารถสู้กับตำรวจทั้งภาคได้

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีที่ได้ไปออกรายการ โหนกระแส และมีโทรศัพท์จากคนบนเรือเข้ามาพูดคุยในการรายการ รวมถึงนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่เข้ามาร่วมรายการด้วย นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับทางหนุ่ม กรรชัยและทำความเข้าใจกันแล้ว ส่วนการไปออกรายการตนมองว่าเป็นประโยชน์ที่ทำให้คนบนเรือรู้สึกระแวงกันเอง ว่าใครเป็นคนรับสารภาพตามที่นายอัจฉริยะกล่าวอ้าง และไม่คิดว่าทางทนายตั้ม จะเข้ามาร่วมรายการด้วย พร้อมย้ำว่าจะไม่เปิดหลักฐานต่อทนายตั้ม และไม่มองว่าเป็นแทรกแซงการทำงาน ส่วนกรณีคลิปที่ตนมีนั้น ตนไม่เคยพูดว่าเป็นคลิปกรีดขาบนเรือ เพียงแต่บรรยายว่าแผลที่ขาของแตงโมนั้น มีลักษณะคล้ายการใช้มีดกรีดเท่านั้น

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ให้ทางเจ้าหน้าที่รีบตรวจสอบคราบเลือดบนเรือ ถ้าหากเรือลำที่เกิดเหตุไม่มีคราบเลือด ทำไมถึงไม่กล้าตรวจเรือ ถ้าไม่มีก็สิ้นสงสัยไป ส่วนหลักฐานอื่น ๆ ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะผู้ที่นำหลักฐานมาให้จะไม่ปลอดภัย และธุรกิจเสียหาย และสิ่งที่เราอยากเปิดเผยอยู่ในสำนวนของศาลไปแล้ว เดี๋ยวถึงเวลาทุกอย่างจะคลี่คลายเอง ซึ่งถ้าตรวจเจอคราบเลือด ทางคุณแม่อาจเปลี่ยนใจได้เลย สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้จากอัยการ ส่วนถ้าแม่จะถอนฟ้อง ก็เป็นสิทธิ์ของแม่ แต่ย้ำว่าหากถอนฟ้องแล้วจะไม่สามารถฟ้องใหม่ได้ และเรื่องการตรวจ ดีเอ็นเอ ระหว่างแตงโมและแม่นั้น แค่ตรวจดีเอ็นเอทุกอย่างก็จบแล้ว จะได้ลบข้อครหาของประชาชนด้วย

Related Posts

Send this to a friend