CRIME

‘ยุติธรรม’ ถกแก้ปัญหายาเสพติด ตั้งเป้า 6 เดือนเห็นผล ดึงท้องถิ่นร่วมมือ-กองทัพบำบัด

วันนี้ (24 เม.ย. 68) ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่ 2/2568 โดยมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมคุมประพฤติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ภายหลังการประชุม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นวาระแห่งชาติอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าปรับแผนการทำงานเพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 6 เดือนข้างหน้า แม้ตัวชี้วัดจะยังคงเดิม แต่เป้าหมายสำคัญที่สุดคือการสร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า แนวทางการบูรณาการแก้ไขปัญหาจะดึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาร่วมรับผิดชอบมากขึ้น โดยจะจัดทำแบบประเมินผลการมีส่วนร่วมของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น เพื่อตอบสนองต่อข้อร้องเรียนเรื่องปัญหายาเสพติดในชุมชนที่ไม่ได้รับการแก้ไข

พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงภาพรวมปัญหาผู้ติดยาเสพติดและผู้ต้องขังคดียาเสพติด ซึ่งมีจำนวนรวมกันมากกว่า 700,000 คน (ผู้ต้องขังกว่า 300,000 คน และผู้ถูกคุมประพฤติกว่า 400,000 คน) โดยพบว่ากว่า 70% เป็นผู้มีการศึกษาต่ำกว่าระดับพื้นฐาน จึงได้ประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ต้องขัง

นอกจากนี้ ยังมีความจำเป็นต้องปรับแก้ข้อกฎหมายให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังหรือผู้ป่วยยาเสพติดสามารถกลับคืนสู่สังคม และลดโอกาสการกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำ

ในประเด็นที่ผู้ปกครองมักส่งบุตรหลานติดยาเสพติดเข้ารับการเกณฑ์ทหาร พล.ต.วิทยา เสมาทอง ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารบก กล่าวว่า กองทัพเข้าใจถึงปัญหาสภาพครอบครัวที่อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา โดยเชื่อว่าการฝึกทหารสามารถช่วยพัฒนาศักยภาพบุคคลได้ กองทัพบกยินดีสนับสนุนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด หากอาการไม่รุนแรงจะเน้นการออกกำลังกายและฝึกระเบียบวินัย หากมีอาการรุนแรงก็มีหน่วยแพทย์ทหารพร้อมดูแล

ด้าน นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ให้ความเห็นว่า ผู้ใช้ยาเสพติดที่ยังไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงสามารถหยุดยาได้เอง ประกอบกับกิจกรรมในกองทัพและการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ จะช่วยในการฟื้นฟู อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้ยาทุกรายจะได้รับการประเมินและส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม พร้อมย้ำว่าการเลิกยาเสพติดไม่ใช่เรื่องยาก หากผู้ป่วยมีวินัยและตั้งใจจริง

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat