CRIME

ทลายฐานปฎิบัติการใหญ่ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา”

วันนี้ (24 มี.ค.65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.) หรือ PCT: Police Cyber Taskforce เป็นประธานแถลงผลการจับกุมแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 28 ราย และยังสามารถช่วยเหลือเหยื่อคนไทยได้ 5 ราย อยู่ระหว่างคัดแยกอีก 28 ราย รวม 61 ราย ใจกลางเมืองพระสีหนุ หลังสืบทราบว่า หลอกเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และ พนักงาน DHL Fed EX จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก

สำหรับคดีนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 PCT นำทีมสืบสวนจนทราบแหล่งกบดานของเครือข่ายดังกล่าว ที่ใช้อาคารในเมืองพระสีหนุ เป็นฐานปฏิบัติการ จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ฯ เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อประสานขอความร่วมมือกับตำรวจในพื้นที่

วันที่ 20 มี.ค. 65 พล.ต.อ.Sar Theth รอง ผบ.ตร.แห่งกัมพูชา ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.Wan Wera ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระสีหนุ สนธิกำลังกับตำรวจฝ่ายไทย นำกำลังเข้าตรวจค้นออฟฟิศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ในจังหวัดพระสีหนุ โดยจุดที่ 1 เป็นโรงงานร้าง ไม่มีเลขที่ ถ.Santepheap จ.พระสีหนุ จุดนี้มีแผนประทุษกรรมหลอกลวงโดยการโทรศัพท์ไปหาเหยื่อ ก่อนจะอ้างว่ามีพัสดุจากบริษัทขนส่ง DHL หรือ FedEX แต่ถูกด่านของกรมศุลกากรอายัดไว้และมีสิ่งของผิดกฏหมาย จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ติดต่อไปเพื่อทำการตรวจสอบบัญชีหรือตรวจสอบการเงินเพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ โดยใช้รูปโปรไฟล์ในแอพพลิเคชั่นเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุด ผบ.ตร. มาแอบอ้างทำให้ประชาชนตกเป็นเหย

ผลการตรวจค้นพบจับกุมผู้ต้องหา 28 คน เป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับไว้แล้วทั้งหมด คือ นายซิน ฮัง เต หรือนายอาเต๋อ อายุ 28 ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) หัวหน้าใหญ่ , นายจาง เจียน เทียน หรือนายอาหู อายุ 41 ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) หัวหน้าใหญ่ และนายพรศักดิ์ รีพล อายุ 30 ปี สัญชาติไทย พร้อมพวกซึ่งเป็นคนไทยอีก 25 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ร่วมกันเป็นซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฟอกเงิน” นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบพยานหลักฐานสำคัญ คือ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Iphone จำนวน 30 เครื่อง , วิทยุสื่อสาร จำนวน 8 เครื่อง , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 4 เครื่อง , สคลิปเตรียมบทพูดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และเป็นเจ้าหน้าที่จาก DHL และ FedEx , เอกสารหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม , เอกสารหมายจับศาลอาญา ซึ่งเป็นเอกสารปลอม , เอกสารหมายเรียกของสำนักคดีการเงินการธนาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม

ส่วนจุดที่ 2 คืออาคาร Diwei Entertainment City ถนน 2 Thnou เมืองพระสีหนุ ซึ่งเปิดเป็นบ่อนคาสิโนบังหน้า ลักลอบทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์บนชั้น 5 ของตึก ซึ่งจุดนี้มีแผนประทุษกรรมหลอกลวง โดยการลวงให้หลงรักในแอ็พพลิเคชั่น Tinder จากนั้นชักชวนลงทุนเทรดเงินดิจิตัล โดยจะให้โอนเหรียญชนิด Usdt เข้าไปในกระดาษเทรดเหรียญเถื่อน บางรายที่เทรดเป็นอยู่แล้ว ก็จะถูกชักจูงให้เทรดในโหมด Futures Trade ซึ่งมีความเสี่ยงสูง และหากผู้ถูกหลอกสามารถเทรดจนได้กำไรในพอร์ต ก็ไม่สามารถถอนเงินออกได้ ส่วนขั้นตอนสุดท้ายคือ จะถูกหลอกให้เสียเงินภาษีเพื่อถอนเงินในพอร์ตออกมา แต่เมื่อผู้ถูกหลอกโอนเงินเข้าไปแล้ว ก็ไม่สามารถถอนเงินออกจากพอร์ตได้เลย นอกจากนี้ ยังใช้วิธีการหลอกลวงให้ร่วมลงทุน กับการขายสินค้าแอ็พพลิเคชั่น Lazada ให้ผลตอบแทนสูง

ผลการตรวจค้น พบคนไทย 33 คน กำลังทำงานคุยกับลูกค้า โดยในจุดนี้ ยังต้องทำการคัดแยกต่อว่าใครเป็นเหยื่อ ใครเป็นผู้ต้องหา เบื้องต้นสอบถามมี 5 คนที่สมัครใจอยากกลับประเทศไทย จึงได้ส่งตัวไปยังสถานกงสุลไทยในกัมพูชาแล้ว และยังได้ตรวจพบพยานหลักฐานสำคัญ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ All in one จำนวน 68 เครื่อง

หลังตรวจค้นจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายในประเทศกัมพูชาก่อน และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตามกฎหมายของกัมพูชาแล้ว จะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้ประเทศไทย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat