ผบก.ส.1 ยัน ส.ต.ท.หญิงทำร้ายทหารหญิง ต้องรายงานตัวต้นสังกัดวันนี้ หากไม่มามีความผิด
ผบก.ส.1 ยัน ส.ต.ท.หญิงทำร้ายร่างกายทหารหญิง ต้องมารายงานตัวต่อต้นสังกัดวันนี้ หากไม่มามีความผิด เตรียมตั้งคณะกรรมสอบวินัย
วันนี้ (22 ส.ค. 65) ที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 พล.ต.ต.อุดร วงษ์ชื่น ผบก.ส.1 เปิดเผยถึงการเข้ารายงานตัวต่อต้นสังกัด ของ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 หลังจากถูกโอนย้ายกลับมา ว่า ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ จะต้องเข้ามารายงานตัวที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ภายในวันนี้ เนื่องจากมีหนังสือส่งตัวมาที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาลแล้ว อยู่ระหว่างรอหนังสือมาที่นี่คาดว่าภายในวันนี้ ซึ่งตามระเบียบแล้ว หากหนังสือมาถึงจะต้องมารายงานตัวในวันเดียวกันไม่เช่นนั้นจะมีความผิดเพิ่ม
ส่วนการตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจหญิงคนดังกล่าว จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายในวันนี้ ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน ส่วนจะถึงขั้นต้องให้ออกจากราชการหรือไม่ ต้องพิจารณาจากการสอบสวนของทาง สภ.เมืองราชบุรี ว่าพฤติกรรมเป็นอย่างไร ซึ่งมีการส่งข้อมูลเบื้องต้นมาแล้ว
ส่วนรายละเอียดการทำงานที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ของตำรวจหญิงรายดังกล่าว มีการย้ายมาจากหน่วยอื่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายมาตามวงรอบปกติ มีการย้ายพร้อมๆ กันกว่า 100 คน
จากนั้นเข้ามาทำงานได้ระยะหนึ่ง ก็ถูกให้ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ซึ่งลักษณะการทำงาน ในด้านงานข่าวจะมีประสานหน่วยงานกันอยู่แล้ว รวมถึง ตำรวจหญิงรายดังกล่าว สังกัดอยู่ใน กองกำกับการ 4 ซึ่งรับผิดชอบ ตำรวจภูธรภาค 7 และ 8 ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างด้วย
สำหรับตำรวจหญิงคนดังกล่าวได้รับรายงานมาว่า เริ่มเข้ามารับราชการตั้งแต่ปี 2560 แต่ไม่แน่ใจว่าอยู่สังกัดใดก่อนหน้านี้ ซึ่งขั้นตอนการรับมีการตรวจสอบประวัติสุขภาพจิตหรือไม่ ตนเองไม่สามารถตอบได้เนื่องจากไม่ได้อยู่ในส่วนความรับผิดชอบ เรื่องการรับบุคคลภายนอกเข้าบรรจุราชการ มี “กองบัญชาการศึกษา” ทำหน้าที่เปิดรับสมัคร
ส่วนพฤติกรรมการทำงานยังไม่ได้รับรายงานความบกพร่องในหน้าที่ แต่จะต้องมีการตรวจสอบ ซึ่งลักษณะการทำงานในกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานที่กองบังคับการทุกวัน เพราะลักษณะเป็นงานข่าว ต้องออกไปหาข่าวตามพื้นที่ต่างๆ
ส่วนคำถามที่สังคมสงสัยว่าเหตุใดตำรวจหญิงคนดังกล่าวจึงมีทหารรับใช้ได้ ตนเองไม่ทราบ แต่ตามปกติ ไม่สามารถมีได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจยศไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมกับผู้บังคับการตำรวจสันติบาล ว่าสิบตำรวจหญิงคนดังกล่าวเข้ารับราชการตามระเบียบหรือไม่ เพราะหากเข้ารับราชการในปี 2560 แต่ปัจจุบัน อายุจะครบ 44 ปีในเดือนหน้า นั่นหมายความว่า ตำรวจหญิงคนดังกล่าวเข้ารับราชการอายุเกิน 35 ปีตามระเบียบหรือไม่ ผู้บังคับตำรวจสันติบาล 1 กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว เพราะเป็นส่วนที่กองบัญชาการศึกษา ซึ่งเป็นหน่วยงานในการคัดกรอง เป็นผู้รับผิดชอบ
ทั้งนี้ นักข่าวได้สอบถามไปยังกองบัญชาการศึกษา มีรายงานว่า ตามระเบียบ บุคคลที่มีอายุเกิน 35 ปีจะไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการสอบเข้ารับราชการตำรวจ แต่ก็มีเงื่อนไขพิเศษบางประการ เช่น เป็นบุตรของอดีตตำรวจที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น
