รอง ผบ.ตร.แถลงผลจับกุมหลบหนีเข้า 1 ปี มีกว่า 4 หมื่นคน

รอง ผบ.ตร. แถลงผลจับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในรอบ 1 ปี มีกว่า 40,000 คน ขบวนการขนแรงงานเถื่อนอีก 154 เครือข่าย
วันนี้ (21 ธ.ค. 64) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการปราบปรามคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในรอบ 1 ปี คือ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 63 – 15 ธ.ค. 64 สามารถจับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 42,443 ราย ผู้นำพา 293 ราย ผู้ช่วยเหลือ 841 ราย รวมผลการดำเนินจับกุมทั้งสิ้น 43,577 ราย
นอกจากนี้ยังสามารถทลายเครือข่ายและขบวนการขนแรงงานผิดกฎหมายได้ 221 เครือข่าย จับกุมไปแล้ว 154 เครือข่าย แบ่งเป็นตัวการ 402 ราย คนต่างด้าว 1,769 ราย ออกหมายจับ 82 หมายจับ กำลังสืบสวนและติดตาม 67 เครือข่าย ตรวจยึดทรัพย์สิน 312 ราย เป็นพาหนะ 182 คัน บัญชีธนาคารกว่า 20 ธนาคารและอื่นๆ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวถึงการกระทำความผิดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวว่า กรณีนายจ้างรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท ต่อแรงงานต่างด้าวหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำ มีโทษจำคุกและห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวทำงาน 3 ปี ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และถูกผลักดันออกไปนอกราชอาณาจักร และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รอง ผบ.ตร. เพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเป็นระบบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้างและสถานประกอบการที่ขาดแคลนแรงงาน ให้นำแรงงานต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าสู่ระบบการจ้างงานตามกฎหมายประเทศไทย เพื่อให้ได้รับการดูแลตามสิทธิที่พึงมี โดยให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบในช่วงวันที่ 1-30 พ.ย. 64 และให้นายจ้างยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวภายใน 7 วัน ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนแล้ว 279,902 ราย ดังนั้น คนต่างด้าวรายใดที่ไม่ได้ดำเนินการในกำหนด จะถือว่าเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและหากนายจ้างรับเข้าทำงานจะถือว่ามีความผิดฐานรับบุคคลต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงานด้วย