ป.ป.ส. เดินหน้าแผน Seal-Stop-Safe ล้างบางยาเสพติดใน 3 เดือน
ป.ป.ส. เดินหน้าแผน Seal-Stop-Safe ล้างบางยาเสพติดใน 3 เดือน เชื่อเป็นไปได้หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง
วันนี้ (21 ก.ค. 68) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้นโยบายแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดตามนโยบาย “Seal Stop Safe” ซึ่งแม้จะปราบปรามยาเสพติดได้อย่างน่าพอใจ แต่อยากให้ผลการปฏิบัติออกมาได้ดีกว่านี้ โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ 17 ก.ค. – 30 ก.ย. (3 เดือน)
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ระบุว่า สำนักงาน ป.ป.ส. เราเป็นหน่วยบูรณาการ ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่นายภูมิธรรมให้นโนบายกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งที่แตกต่างจากเดิม คือแผนในการขับเคลื่อนในการแก้ไขยาเสพติด มีอยู่ 3 แผ่นในการแก้ปัญหาได้แก่
1.แผนแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ. 2568 กำหนดตัวชี้วัด 17 ด้าน โดยเน้นให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจ ปลอดภัย และพึงพอใจต่อสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่
2.แผน Seal–Stop–Safe เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดและสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชน
3.แผนหมู่บ้านปลอดภัยจากยาเสพติด ตั้งเป้าให้แต่ละหมู่บ้านทั่วประเทศ ปลอดยาเสพติดทุกประเภท ภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ พร้อมออก “ธรรมนูญหมู่บ้าน” ให้ผู้ว่าฯ และผู้กำกับตำรวจรับผิดชอบร่วมกันขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
อีกทั้ง การแก้ปัญหายาเสพติดจะสำเร็จได้ต้องอาศัยพลังของชุมชน และความร่วมมือจากประชาชน โดยภาครัฐต้องสร้างความเชื่อมั่น และทำให้ชาวบ้านรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจในการเข้ามามีส่วนร่วม เมื่อหมู่บ้านปลอดภัยมากขึ้น สังคมไทยก็จะปลอดภัยมากขึ้นตามลำดับ
ส่วนสถานการณ์ยาเสพติด โดยเฉพาะตามแนวชายแดนไทย – เมียนมา ยังคงมีความท้าทาย แม้จีนจะสามารถเป็นตัวกลางเจรจาให้เกิดข้อตกลงระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ว้าเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งช่วยให้เมียนมาสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ดีขึ้นในฝั่งไทย แต่ขณะเดียวกัน ชายแดนที่ติดกับมณฑลยูนนานของจีนกลับมีแนวโน้มเปิดเสรีมากขึ้น ส่งผลให้สารตั้งต้นสามารถเล็ดลอดเข้าสู่พื้นที่ผลิตยาได้ง่ายขึ้น ไทยจึงเตรียมเข้าหารือกับรัฐบาลจีนภายในปลายเดือนนี้ เพื่อขอความร่วมมือในการสกัดสารตั้งต้น และสารเคมีในพื้นที่ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายใน 3 เดือนจะสามารถปฏิบัติตามนโยบายให้หมู่บ้านทุกหมู่บ้านปลอดยาเสพติดจะเป็นไปได้หรือไม่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยืนยันว่า เป็นไปได้ หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง การขับเคลื่อนนโยบายนี้จะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่มีความจริงจัง จะสามารถควบคุมสถานการณ์ยาเสพติดได้อย่างชัดเจน และยั่งยืน












