ผบช.ก.แถลงรวบครบแก๊งฆ่าสองสามีภรรยาที่ไต้หวัน

ผบช.ก.แถลงรวบครบแก๊งฆ่าสองสามีภรรยาที่ไต้หวัน เผยปมขัดแย้งยังไม่ชัดเจน แต่ให้การสอดคล้องกัน ส่วนข้อหาฆ่าอำพราง ต้องดำเนินคดีที่ไต้หวัน

วันนี้ (21 มิ.ย. 65) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. นายอีธาน หลิน (Ethan Y.H. Lin) ทูตตำรวจไต้หวันประจำประเทศไทย ร่วมแถลงจับกุมนายสามารถ แซ่หลี อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1220/2565 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2565 ฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในคดีฆาตกรรมสองสามีภรรยาชาวไทยที่ไต้หวัน โดยจับกุมได้บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเหตุฆาตกรรม น.ส.พจนีย์ แซ่หลี่ อายุ 35 ปี และนายประเสริฐ โนราษ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยาชาวไทยที่ไต้หวัน ซึ่งทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ดําเนินการสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ต่อมาในเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 นายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน หนึ่งในผู้ก่อเหตุ หลบหนีกลับเข้ามาในราชอาณาจักร และได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ที่หมู่บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตํารวจ จึงได้จับกุมตัวนําส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อดําเนินการตามกฎหมาย

จากการสืบสวนเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตํารวจพบพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า มีผู้ร่วมขบวนการในการก่อเหตุอีก 2 ราย ประกอบด้วย นายธนวัฒน์ พุ่มเข็มทอง ซึ่งถูกจับกุมที่ ที่ ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.65 และนายสามารถ แซ่หลี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังลงพื้นที่จับกุม

โดยนายสามารถ ให้การรับสารภาพว่าร่วมกับนายสันติและนายธนวัฒน์ ก่อเหตุฆ่าสองสามีภรรยาโดยใช้ท่อนเหล็กข้ออ้อยตีสองสามีภรรยาจนเสียชีวิต จากนั้นนำศพขึ้นรถเก๋งไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถ ก่อนจะหลบหนีกลับมายังประเทศไทย และกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.เขียงราย และให้การสอดคล้องกันกับผู้ต้องหารายอื่น นายสามารถให้การว่าตนเองเป็นผู้ใช้ท่อนเหล็กตี ร่วมกับนายธนวัฒน์ ส่วนนายสันติเป็นผู้ล็อคสามีภรรยา

การจับกุมครั้งนี้ เป็นการจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ส่วนผู้ที่ช่วยเหลือในการหลบหนียังไม่พบ อย่างไรก็ตาม นายสามารถกับนายธนวัฒน์นั้นไม่รู้จักกับผู้เสียชีวิต แต่สนิทสนมกับนายสันติ ส่วนความขัดแย้งระหว่างนายสันติและผู้ตายนั้นยังไม่แน่ชัด

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ในประเทศไทยจะดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนข้อหาอำพรางศพต้องดำเนินคดีที่ไต้หวัน ประเทศไทยไม่สามารถดำเนินคดีได้ เนื่องจากมาตรา 8 ไม่ได้ให้อำนาจไว้

นายอีธาน กล่าวว่า หลังจากสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนไทยและได้หลบหนีมายังประเทศไทย จึงประสานมายังประเทศไทย ซึ่งทางผู้บัญชาการสอบสวนกลางได้สั่งการอย่างรวดเร็ว จนดำเนินการจับกุมได้ ต้องขอขอบคุณอย่างมาก โดยคดีนี้เป็นคดีที่ใหญ่มาก และเป็นคดีที่แสดงถึงความสำเร็จในการประสานงานของตำรวจไทยและไต้หวัน ส่วนประเด็นที่ทางผู้ต้องหาอ้างถึงธุรกิจมืด ทางไต้หวันไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้งแต่อย่างใด และอยู่ระหว่างการสอบสวน