บช.น. แถลงจับกุม “คดีร่วมกันชิงทรัพย์ฯ” โลตัส เอ็กซ์เพรส มีนบุรี รับสารภาพต้องการนำเงินไปใช้จ่าย
วันนี้ (20 เม.ย. 63) เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.(สบ.8) ปฏิบัติราชการ บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา “คดีร่วมกันชิงทรัพย์ฯ” บริเวณกองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 00.50 น. บริเวณร้านโลตัส เอ็กซ์เพรส (สาขา 2543) ซอยสามวา 7 ถนนสามวา แขวง/เขตมีนบุรี กรุงเทพ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายจำนวน 2 คน ร่วมกัน ก่อเหตุชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน ได้ทรัพย์สินไปจำนวน 2 รายการ ได้แก่ เงินสดจำนวน 17,675 บาท และบุหรี่มวน จำนวน 22 ซอง
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี พบได้ว่าหลบหนีไปทางถนนสามวา มุ่งหน้าไปทางลัดหลังวัดบัวแก้ว ถนนนิมิตใหม่จึงทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ สอบปากคำพนักงาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน จนทราบตำหนิรูปพรรณของคนร้ายที่มาก่อเหตุ คนร้ายที่ 1 ได้สวมเสื้อคลุมสีส้ม สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำ-น้ำเงินเหลือง มีลักษณะรูปร่างอ้วน และคนร้ายที่ 2 ได้สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำแดง มีลักษณะรูปร่างผอม-สูง โดยคนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีเทา-ดำ ขับขี่มาก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายปรัชญา ดิษฐจูอายุ 20 ปี และนายชานนท์ สรเพ็ชร อายุ 20 ปี ก่อนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญามีนบุรี
วันที่ 19 เมษายน 2564 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่พบตัวนายปรัชญา ดิษฐจู ในบ้านเลขที่ 21/1 ซอยหทัยราษฎร์ 25 ส่วนนายชานนท์ ศรเพ็ชร ผู้ร่วมกันก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่หอพัก CBS ห้อง 401 ชั้น 4 ซอยหทัยราษฎร์ 1 จึงเดินทางไปตรวจสอบและดำเนินการจังกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมตรวจยึดของกลางได้แก่ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีเทา-ดำ คันทะเบียน 2ขก 6162 กทม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ เงินสดจำนวน 7,759 บาท บุหรี่มวนจำนวน 18 ซองจากการก่อเหตุ และชุดที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ต้องการนำเงินไปใช้ในการจ่ายค่าเช่าห้องพัก เนื่องจากช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเป็นเหตุให้มีเงินไม่เพียงพอสำหรับการใช้จ่าย อีกทั้งผู้ต้องหาทั้งสองยังมีประวัติคดีทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกาย สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาลแจ้งเตือนประชาชนผู้ประกอบการร้านค้า ร้านทอง ให้ระมัดระวังทรัพย์สินเพื่อป้องกันเหตุชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ โดยแนะนำให้สถานประกอบการต่างๆ ที่ล่อแหลมต่อการเกิดเหตุให้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเหตุร้าย และสัญญาณเตือนภัย เช่น กล้องวงจรปิด เป็นต้น
