โฆษก ตร. ย้ำ ตรุษจีนตำรวจไม่มีรับอั่งเปาทำงานตามหน้าที่ดูแลประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลงานรอบ 3 เดือน ย้ำ ตรุษจีน ตำรวจไม่มีรับอั่งเปา ทำงานตามหน้าที่ดูแลประชาชน

วันนี้ (20 ม.ค.66) เวลา 11:00 น. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก.ตร. พ.ต.ท. ธ เทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษก ตร. และ พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษก ตร. ได้ร่วมกันแถลงผลการดำเนินการ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 – 31 ธ.ค.65

สำหรับผลงานตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ ผ่านมา แบ่งออกเป็น 5 ด้านดังนี้

1.ด้านการกวาดล้างอาชญากรรม มีสถิติคดีอาญา 4 กลุ่ม ทั่วประเทศ สามารถจับกุมได้ 221,205 คดี ได้แก่ การระดมกวาดอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสำคัญ (APEC, ฟุตบอลโลก, ปีใหม่) จับกุมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน การจับกุมการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก การกวาดล้างและจัดระเบียบ คนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ระดมกวาดล้างคนต่างด้าว Overstay /หลบหนีเข้าเมือง / ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น

โครงการประชาสัมพันธ์ เครือข่ายป้องกันอาชญากรรม อาทิ โครงการฝากบ้าน 4.0 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 โครงการ Stop Walk and Talk เป็นการเก็บข้อมูลจากการหยุดรถตรวจพูดคุยกับประชาชน นำข้อมูลมาใช้ในการป้องกันอาชญากรรมก่อนเกิดเหตุ ซึ่งในการห้วงมีการประชุม APEC มีการบันทึกข้อมูลบุคคลที่พบปะพูดคุย จำนวน 593,621 ครั้ง

2.ด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด มีสถิติการจับกุมคดียาเสพติด จับกุมได้ 69,385 คดี ผู้ต้องหา 68,354 คน /โครงการค้นหา ผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยา และผู้ป่วยจิตเวช เพื่อนำเข้าสู่การบำบัดรักษา จำนวน 401,452 คน /โครงการชุมชนยั่งยืน ดำเนินการไปแล้วจำนวน 2,966 ชุมชน พบผู้เสพยาเสพติด จำนวน 28,164 คน ในปี พ.ศ. 2566 จะดำเนินการอีกจำนวน 1,483 หมู่บ้าน-ชุมชน นำเข้าสู่การบำบัดรักษาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน (Community Based Treatment : CBTx)

3.ด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มีการแจ้งความออนไลน์ รับแจ้งความ 67,479 คดี ขยายผลและออกหมายจับจำนวน 321 Case ID จับกุมได้ 95 Case ID คิดเป็น 30% พบความเสียหายรวม 8,815,670,563 บาท อายัดบัญชีได้ 24,614 บัญชี อายัดเงินได้ 105,917,104 บาท

4.ด้านการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจ Service Mind ปรับแนวคิดการให้บริการประชาชนของสถานีตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 1,484 สถานี เน้นการให้บริการดุจญาติมิตร รับรู้ แก้ไขปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ ยกระดับการบริการทุกสายงาน เช่น สายตรวจต้องเข้าไปรับรู้ปัญหาของชุมชน (Stop Walk and Talk) /การรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ออนไลน์ (ผ่านระบบ JCOMS) เปิดช่องทางให้ประชาชนได้มีโอกาสร้องเรียน ร้องทุกข์ หรือแจ้งเบาะแสต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ JCOMS : www.jcoms.police.go.th และเว็บไซต์สำนักงานจเรตำรวจ : www.jaray.go.th หรือสแกนผ่านทาง QR Code ปัจจุบันมีการรับเรื่องร้องเรียน 1,851 เรื่อง แจ้งเบาะแส/ขอความช่วยเหลือ 1,261 เรื่อง รวม 3,112 เรื่อง /โครงการ “ทำดี มีรางวัล” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” จาก 15 เหตุการณ์ รวม 74 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 68 ราย พลเมืองดี จำนวน 6 ราย

5.ด้านจราจร การดูแลการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ จากข้อมูลจากศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตลอด 7 วัน สถิติการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งหมด 2,440 ครั้ง ลดลง 22.61% ผู้บาดเจ็บ 2,437 ราย ลดลง 23% เสียชีวิต 317 ราย ลดลง 13.39% /โครงการอาสาตาจราจร รณรงค์เพื่อร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการขับรถตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน /ปรับปรุงกฎหมายจราจร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของผู้ขับขี่ที่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ เพื่อกำหนดข้อยกเว้นให้ผู้ขับขี่รถสามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะขับรถได้ โดยต้องปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ คือ

1.) ใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย / อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา / ระบบกระจายเสียง โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่

2.) ใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับยึดหรือติดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้กับส่วนหน้าของตัวรถทุกครั้งก่อนการขับรถ โดยต้องไม่บดบังทัศนวิสัยหรือเสียความสามารถในการขับรถ กรณีมีความจำเป็นต้องถือ จับ สัมผัสโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อใช้งาน ให้หยุดหรือจอดในสถานที่สำหรับจอดรถอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท /ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ 9 มกราคม 2566 สถิติการตัดคะแนนความประพฤติใบขับขี่ วันที่ 9 – 15 ม.ค.66 (7 วัน) รวมจำนวน 3,446 ราย เป็นคดีที่ต้องฟ้องศาล ซึ่งจะบันทึกคะแนนเมื่อคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ข้อหาที่มีการตัดคะแนนมากที่สุด คือ 1) ใช้รถไม่แสดงเครื่องหมายเสียภาษีประจำปี จำนวน 1,174 ราย 2) ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด จำนวน 580 ราย 3) ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ จำนวน 516 ราย จังหวัดที่มีการบันทึกและตัดคะแนนมากที่สุด ได้แก่ 1) ชัยนาท 2) กทม. 3) เพชรบุรี

อย่างไรก็ตามสำหรับเทศกาลตรุษจีนที่มาถึง ทางสำนักงานตำราจแห่งชาติกำชับทุกหน่วยงานให้มีการดูแลตามมาตราการต่างไปอย่างเต็มที่ โดยได้เน้นย้ำให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในห้วงของเทศกาลตรุษจีน แบ่งเป็นในเรื่องของวันจ่าย ต้องระวังเหตุการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ร้านทอง ธนาคาร หรือร้านสะดวกซื้อ ในส่วนวันไหว้จะให้ระวังเรื่องการไหว้เทพเจ้าเนื่องจากอาจมีการเผลอเรอจุดธูป จุดพลุ จุดประทัดจนเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้

นอกจากนี้จะมีการเตรียมดูแลในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรต้องบูรณากำลังในการดูแล ส่วนมาตรการจราจรจะต้องมีการดูแลเส้นทางการออกไปเที่ยวตามเส้นทางต่างๆ ให้มีความปลอดภัย อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทาง ผบ.ตร. เน้นย้ำมาตรการตำรวจที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ และจะต้องไม่มีการรับผลประโยชน์โดยมิชอบด้วย

ทั้งนี้ โฆษก ตร. กล่าวย้ำอีกว่า ตามประเพณีตรุษจีน การรับอั่งเปาจากผู้ประกอบการของตำรวจ ไม่เคยเข้าไปยุ่งในส่วนนี้ พร้อมระบุว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำไปเพื่อดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเท่านั้น ไม่ได้หวังของขวัญหรือผลประโยชน์อื่นใดทั้งสิ้น