CRIME

รวบหมอเก๊ลักลอบทำงานคลินิกพิมรี่พาย

รวบหมอเถื่อนลักลอบทำงานคลินิกพิมรี่พาย สารภาพ เป็นเซลล์ ฝึกฉีดโบทอกซ์จนชำนาญก่อนสวมรอยไปสมัครแพทย์ จนท.พบ จบการศึกษาชั้น ม.6

วันนี้ (19 ธ.ค. 64) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลจับกุม น.ส.อาลินดา อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาปลอมแปลงเอกสาร ลักลอบทำงานในคลินิกพิมรี่พาย โดยสามารถจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพัทยา จังหวัดชลบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2129/2564 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2564 โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ”

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 น.ส.พิมรดาภรณ์ฯ หรือพิมรี่พาย ซึ่งเป็นหุ้นส่วนอิสคิวท์คลินิก เวชกรรม เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่าถูก น.ส.อาลินดา (สงวนนามสกุล) ใช้เอกสารใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านอื่น มาสมัครเป็นแพทย์ผู้ให้บริการของคลินิก จนเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย และได้รับข้อมูลมาว่าหมอปลอมเป็นอดีตเซลล์ขายคอร์สประจำคลินิก มีพฤติกรรมชอบถ่ายรูปในคลินิก สวมรอยเป็นแพทย์ ทำให้คลินิกได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จนเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน โดยต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขอออกหมายจับต่อศาลอาญาดังกล่าวข้างต้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.ได้ออกสืบสวน จนทราบว่า น.ส.อาลินดาฯ ได้หลบหนี ไปซ่อนตัวอยู่ที่ โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านพัทยา จังหวัดชลบุรี ต่อมาในวันที่ 19 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก. ปคบ. จึงได้เจ้า จับกุม น.ส.อาลินดาฯ ตามหมายจับของดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเมื่อประมาณกลางปี 2564 น.ส.อาลินดาฯ ได้ใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาสมัครงานเป็นแพทย์ พาร์ทไทม์ ที่คลินิก อิสคิวท์ โดยได้ใช้เอกสารประจำตัวและใบประกอบวิชาชีพ ของแพทย์หญิงท่านหนึ่ง โดยสมอ้างว่าเป็นตนเอง เข้าไปทำงานในคลินิกดัง กล่าว รับรักษาเกี่ยวกับงานสกิน และดูแลผิวหน้า ฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ 

จากการซักถาม ผู้ต้องหา จบการศึกษาเพียงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้สมัครเข้าทำงาน เป็นเซลล์อยู่ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านจตุจักร ต่อมาคลินิกดังกล่าวได้ขยายสาขา จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการสาขาและเป็นเซลล์ ซึ่งในระหว่างที่ทำงานในคลินิกแห่งนี้ ได้ลักลอบนำยาโบท็อกซ์ที่เหลือจากการให้บริการลูกค้ามาทดลองฉีดกันเองในกลุ่มพนักงาน จนเกิดความชำนาญ จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว

Related Posts

Send this to a friend