ศุลกากร ยึดเนื้อหมูเถื่อนลักลอบนำเข้า กว่า 35,000 กก. มูลค่า 7.34 ล้านบาท
วันนี้ (19 ก.ย. 65) นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงผลการจับกุมเนื้อสุกรแช่แข็ง ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ว่า สามารถจับกุมการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ ที่มีมูลค่าสูงได้ 3 คดี รวมน้ำหนักประมาณ 35,000 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 7,340,000 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
วันที่ 11 ก.ย. 65 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามเคลื่อนที่เร็ว กองสืบสวนและปราบปราม ได้ทำการตรวจสอบรถยนต์บรรทุกพ่วง จำนวน 2 คัน บริเวณ ถนนซอยกิ่งแก้ว 25/1 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจสอบพบเนื้อสุกรแช่แข็ง ซึ่งมีเมืองกำเนิดจากต่างประเทศ โดยไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร เอกสารใบอนุญาตนำเข้าหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติพิธีการทางศุลกากร น้ำหนักประมาณ 23,000 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท
วันที่ 16 ก.ย. 65 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสงขลา ได้ทำการตรวจค้นยานพาหนะรถยนต์บรรทุก 12 ล้อ บริเวณริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) พบเนื้อสุกรแช่แข็ง มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกสีฟ้า โดยไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร เอกสารใบอนุญาตนำเข้าหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติพิธีการทางศุลกากร จำนวนประมาณ 12,000 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 2,340,000 บาท
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า จากสถิติการจับกุมการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งหมด 5 คดี รวม 43,800 กิโลกรัม มูลค่า 8,940,000 บาท
อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรจะเข้มงวดจับกุมผู้ที่ลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรมีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยจากสารปนเปื้อนและเชื้อ ASF และเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้เกษตรกรสามารถผลิตสุกรไทยออกจำหน่าย และผลักดันให้กลไกทางการตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับเนื้อสุกรทั้งหมด กรมศุลกากรจะส่งมอบให้กรมปศุสัตว์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป