CRIME

‘ตำรวจไซเบอร์’ แถลงขยายผลปฎิบัติการ “Trust No One” Ep.4

จับนายหน้าชาวจีนรับซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้แก๊งราชาคริปโต พร้อมยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท

วันที่ (17 ส.ค. 66) เวลา 15:40 น. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 แถลงผลการตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมในชื่อ “Trust No One Ep.4 ปฎิบัติการตัดวงจรทุนจีนคริปโต” ในการเข้าตรวจค้นกว่า 29 จุด พร้อมยึดทรัพย์สิน และพยานหลักฐานสำคัญ กว่า 100 รายการ มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท

สืบเนื่องจากกรณีกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รับแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ เกี่ยวกับคดีหลอกลงทุนไฮบริดสแกม ซึ่งคนร้ายใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิทผู้เสียหายผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก่อนชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสำหรับเทรดเงินสกุลดิจิทัลหรือทรัพย์สินต่างๆ โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 20,000 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงขยายผล และเริ่มปฎิบัติการ “Trust No One” เพื่อดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาถึง 4 ครั้ง

โดยปฎิบัติการล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาชาวจีนเพิ่มเติมอีกสองราย ประกอบด้วย นางสาวเผิงเฟย ไช่ อายุ 37 ปี และนายอาบิน เย่ อายุ 41 ปี ในข้อหามีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริตหรือหลอกลวง, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

จากการตรวจสอบพบว่านางสาวเผิงเฟย ไช่ หนึ่งในผู้ต้องหา เข้ามาในประเทศไทยโดยใช้วีซ่าทำงาน และทำหน้าที่บริหารการเงินในบริษัทเกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยแทนลูกค้าชาวจีนจำนวน 3 แห่ง และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมนายอาบิน เย่ ที่หลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชา

นอกจากนี้ ยังได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 29 จุด ให้พื้นที่กรุงเทพมหานครปทุมธานี ชลบุรี สามารถอายัดทรัพย์ได้กว่า 100 รายการ อาทิ รถยนต์หรู ห้องชุด บ้านเดี่ยวที่มีชาวจีนสัญชาติกัมพูชามีชื่อเป็นผู้ครอบครอง เอกสารสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และเอกสารสัญญาเช่า มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท รวมปฏิบัติการทั้ง หมด 4 ครั้ง สามารถอายัดทรัพย์ได้รวมกว่า 3,000 ล้านบาท

ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ยังจะสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับโฉนดที่ดินหลายพื้นที่ จำนวนกว่า 15 ฉบับ ที่ตรวจพบจากปฏิบัติการครั้งนี้ และจะประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ (ป.ป.ง.) เพื่อให้ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าว และดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน เพื่อเร่งดำเนินการเฉลี่ยทรัพย์คืนแก่ผู้เสียหายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตำรวจไซเบอร์ ได้แจ้งเตือนไปยังประชาชน ให้ระมัดระวังการถูกหลอกลวงให้ลงทุนในแอพพลิเคชั่นปลอมที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ BChGlobal, Bitmox, OrangeX BitcoinEX, NAGA, Bitgo,Cobo , EthMiner, SpotGlobal, Paxful, MATH

Related Posts

Send this to a friend