DSI เผยผลการสืบสวนธุรกิจเครือข่ายกำนันนก พบเข้าข่ายคดีฮั้วประมูล 2 โครงการ
DSI เผยผลการสืบสวนธุรกิจเครือข่ายกำนันนก พบเข้าข่ายคดีฮั้วประมูล 2 โครงการใหญ่ พร้อมให้ผู้ได้รับผลกระทบแจ้งข้อมูลเพื่อขยายผลเอาผิด
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่าอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กคร.) ตรวจสอบข้อมูล ธุรกิจในเครือข่ายกำนันนก โดยผลการตรวจสอบพบว่าเครือข่ายกำนันนกมีธุรกิจรับงานจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จนถึงปัจจุบัน รวม 1,544 โครงการ วงเงินงบประมาณ 7,579,402,078.72 บาท และวงเงินทำสัญญารวม 6,964,815,249.47 บาท จำนวน 2 บริษัท คือ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด (เข้ารับงาน 923 โครงการ) และบริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด (เข้ารับงาน 621 โครงการ)
กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐได้ทำการตรวจสอบพบว่า มีโครงการที่บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ได้งานจากภาครัฐที่มีมูลค่าโครงการจำนวนเกิน 30 ล้านบาท จำนวน 18 โครงการ และบริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด ได้งานจากภาครัฐที่มีมูลค่าโครงการจำนวนเกิน 30 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ โดยในจำนวน 20 โครงการ มีเหตุอันควรสงสงสัยเข้าข่ายตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อมีวัตถุประสงค์เข้าทำสัญญากับรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือกีดกันไม่ให้มีการเสนอราคาอันมิใช่เป็นการประกอบธุรกิจปกติ ประกอบไปด้วย
1.โครงการประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม – ต.ลำลูกบัว โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ งบประมาณ 300,000,000 บาท
2.โครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว – บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ งบประมาณ 350,000,000 บาท
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีคำสั่งให้ทำการสืบสวนตามมาตรา 23/1 วรรคหนึ่ง ตามกฎหมาย (คดีสืบสวนที่ 115/2566) และกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กคร.) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ และอยู่ระหว่างการดำเนินสืบสวน
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้บุคคล บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่ได้รับหรือเคยได้รับผลกระทบจากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการข่มขู่ คุกคาม หรือกีดกัน ไม่ให้เข้าร่วมการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นธรรม จากกรณีกำนันนกและเครือข่าย แจ้งข้อมูลมายัง กคร.เพื่อพิจารณาการคุ้มครองพยานตามมาตรการคุ้มครองพยาน กวาดล้างขบวนการและร่วมกันป้องกันและปราบปรามการทุจริตในรูปแบบของผู้มีอิทธิพลต่อไป
