CRIME

เล่นสงกรานต์ยังไง ไม่ให้ฝ่าฝืนคำสั่ง ศบค. เสี่ยงโดนโทษปรับ-จับ

พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยมติศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ที่อนุญาตให้พื้นที่ที่มีการควบคุมสามารถจัดงานสงกรานต์ได้ว่า เป็นการอนุญาตให้จัดเพื่อวัตถุประสงค์ในการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด ขณะที่หลายจังหวัดได้ออกรายละเอียดของมาตรการป้องกันโควิด-19 เป็นการเฉพาะ จากการแบ่งกลุ่มจังหวัดตามสถานะพื้นที่ควบคุมโควิด ประกอบด้วย

1.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการเล่นประแป้งและกิจกรรมในลักษณะปาร์ตี้โฟม รวมถึงห้ามการจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม
2.ให้มีจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าออกและให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่หรือพื้นที่จัดกิจกรรม และให้ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัดตามขนาดของสถานที่หรือพื้นที่จัดกิจกรรมเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม 2 คน
3.ให้เข้าร่วมได้เฉพาะผู้ที่แสดงหลักฐานว่าบุคคลนั้นได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด
4.ห้ามการเล่นน้ำ เล่นประแป้ง ปาร์ตี้โฟม หรือกิจกรรมใด ๆ ที่เป็นความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมพื้นที่สาธารณะ ซึ่งในข้อนี้ ไม่รวมถึงพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมตามประกาศนี้ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะให้จัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ได้ เช่นการจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่หมู่บ้านหรือชุมชน สามารถดำเนินการได้
5.ผู้ที่ประสงค์จะจัดกิจกรรมต้องขออนุญาตต่อฝ่ายปกครองของแต่ละจังหวัด หรือสำนักงานเขตพื้นที่ และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานครแล้วแต่กรณี และดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่กำหนดไว้ในประกาศตามที่ทางราชการ กำหนด ยกเว้นการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัวสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
6.ต้องปฎิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่ ศบค.กำหนด สถานที่หรือการจัดกิจกรรมใด ๆ ที่อาจทำให้เกิดมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคให้ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินมาตรการความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะด้วย

สำหรับผู้ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Related Posts

Send this to a friend