สมศักดิ์ ระบุยังไม่รู้กรณีบริษัทหลานนายกฯ เอี่ยวคดีตู้ห่าวหรือไม่ ชี้หากเกี่ยวข้องยึดทรัพย์หมด ไม่มีนอกมีใน
วันนี้ (13 ม.ค.66) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้าคดีผับจินหลิง เครือข่ายของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ระบุว่า ขณะนี้เครือข่ายตู้ห่าว ผู้ต้องหา 37 ราย จับกุมได้แล้ว 17 ราย ยึดอายัดทรัพย์สิน ในคดีสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 แล้ว 5,344 ล้านบาท ย้ำว่า บุคคลที่ให้เบาะแสจะได้ส่วนแบ่งในอัตรา 5% ยกตัวอย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ไม่ประสงค์ขอรับประโยชน์ส่วนตัว แต่ประกาศที่จะบริจาคเงิน
สำหรับทรัพย์สินของนายชัยณัฐร์ ที่มีการยึดอายัดแล้ว 5,344 ล้านบาท แบ่งเป็น ทรัพย์สินขของกลุ่มผู้ต้องหา 1,111 ล้านบาท จำนวน 117 รายการ อาทิ กระเป๋าหนังจระเข้ รถยนต์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เงินฝากธนาคาร เงินสด และกองทุน ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มผู้มีทรัพย์เกี่ยวข้องอีก 4,233 ล้านบาท เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เงินฝากธนาคาร เครื่องบิน กิจการบริษัท และรถบัส ทั้งนี้อยู่ระหว่างกลั่นกรองเพื่อเสนอยึดอายัดเพิ่มเติม 800 รายการ หรือราว 3,000 ล้านบาท
ส่วนกรณี บริษัทเอกชนที่มีหลานชายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าของและข้องเกี่ยวกับคดีนี้ นายสมศักดิ์ระบุว่ายังไม่ทราบ ไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะคดีทรัพย์ และคดีอาญาแยกกัน ส่วนจะขยายผลไปยังธุรกิจทัวร์ของนายชัยณัฐร์หรือไม่ ตำรวจทำอยู่แล้ว ก็สื่อสารกัน รายละเอียดคงตอบไม่ได้ แต่หากเป็นเรื่องทรัพย์เรายึดหมด ไม่มีนอกมีใน เพราะพลเอกประยุทธ์ มีมาตรการเด็ดขาด
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองตั้งใจทำให้บ้านเมืองปลอดยาเสพติด จะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุดและเป็นบรรทัดฐาน เพราะอีก 2 เดือน ภาระหน้าที่ของรัฐมนตรีหมดแล้ว จึงพยายามตั้งนายชูวิทย์เข้ามาเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษเพื่อการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด (พาลีปราบยา) เพื่อช่วยกันดู