ผบ.ตร. เผย ปมเหตุยิง ‘สจ.โต้ง’ คาดเอี่ยวการเมืองท้องถิ่น
‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ เผย ปมเหตุยิง ‘สจ.โต้ง’ คาดเอี่ยวการเมืองท้องถิ่น ยันหากพบผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีหมดไม่ละเว้น ยัน ตำรวจเชื่อพยานหลักฐานเป็นหลัก ด้านพนักงานสอบสวนค้านประกันตัว เหตุ คดีอุกฉกรรจ์-เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
วันนี้ (12 ธ.ค. 67) เวลา 11.25 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้า นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ ‘สจ.โต้ง ปราจีนบุรี’ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. และอาวุธปืนลูกซอง เสียชีวิตภายในบ้านพักที่อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี โดยพบว่ามีบุคคลในที่เกิดเหตุทั้งหมดรวม 7 คน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นอดีต สจ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีข้อมูลที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของ จ.ปราจีนบุรี หลายคดี และเหตุเกิดภายในบ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งขณะนี้พักการปฏิบัติหน้าที่อยู่ และมีลูกน้องที่ก่อเหตุอยู่ ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมือง และกระทำโดยอุกอาจ จึงให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สนับสนุนการปฎิบัติการสืบสวนพิสูจน์ทราบ
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการเกือบครบถ้วนแล้วตั้งแต่หลังเกิดเหตุ อีกทั้งยังจับกุมผู้กระทำผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างน้อย 7 ราย ที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุด้วย ในทุกข้อหาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งเรื่องร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พ.ร บ. อาวุธปืน
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ด่วนเพื่อตรวจเก็บพยานหลักฐานและวัตถุพยานทั้งหมด อีกทั้งยังกำชับเรื่องการสอบสวนดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่มีประวัติทำผิด ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควร หากพบผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เป็นโอกาสให้เจ้าหน้าที่ติดตามจัดการเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลในหลาย ๆ ท้องที่ ส่วนรายละเอียดด้านการสืบสวน ใครเป็นผู้ก่อเหตุยิง ใครเป็นผู้สั่งการ รวมถึงมูลเหตุแรงจูงใจ และพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ขอเวลาให้พนักงานสืบสวนทำงานก่อน เบื้องต้นเชื่อว่ามูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น
ในส่วนที่นายสุนทรกล่าวอ้างว่าขณะเกิดเหตุนอนพักอยู่ในห้อง และไม่ทราบเรื่อง รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ต้องหาทั้งหมดอาจมีการซักซ้อมให้การในลักษณะเดียวกัน ผู้ใดอยากอ้างอะไรก็อ้างได้ แต่จะใช้พยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นเป็นหลัก หากพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือข้าราชการท้องถิ่น ที่ให้การช่วยเหลือ ถึงแม้ไม่ใช่เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็ตาม จะดำเนินการเอาผิดอย่างไม่ละเว้น
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนทำการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหากได้รับการประกันตัวชั่วคราว
