บช.ก. แนะวิธีตรวจสอบ “หมายเรียก” กันตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
ตำรวจสอบสวนกลาง เผยแพร่ข้อแนะนำเพื่อการตรวจสอบว่า หมายเรียกที่ได้รับเป็นหมายจริงหรือปลอม หลังมีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชน โดยอ้างว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือ ส่งของผิดกฎหมาย ก่อนจะโชว์บัตรตำรวจปลอม หรือหมายเรียกปลอมให้ดู เพื่อข่มขู่ให้กลัว ก่อนจะยอมโอนเงินให้ หรือส่งข้อมูลส่วนตัวให้
โดยขั้นแรก ต้องตั้งสติ ไม่ตกใจ เพราะหมายเรียกเป็นแค่การเรียกไปพบพนักงานสอบสวน ไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้ต้องหา แต่ถึงแม้จะได้รับหมายเรียกในฐานะผู้ต้องหา ก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาได้ เมื่อไปพบพนักงานสอบสวน
หลังจากได้รับหมายเรียกแล้ว ให้พิจารณารายละเอียดอย่างครบถ้วน ว่ามีข้อมูลตามนี้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ออกหมาย , วันที่ที่ออกหมาย , ชื่อและที่อยู่ของพนักงานสอบสวนที่ออกหมาย , สาเหตุที่เรียกไปพบ , สถานที่และวันเวลาที่นัดหมายให้ไปพบ , ลายมือชื่อพร้อมตำแหน่งของพนักงานสอบสวน (ป.วิ.อาญา ม.53)
เพื่อให้มั่นใจว่า พนักงานสอบสวนที่อยู่ในหมายเรียกนั้นเป็นตำรวจจริง สามารถติดต่อไปยังหน่วยงานต้นสังกัด เช่น สถานีตำรวจที่พนักงานสอบสวนประจำอยู่ เพื่อสอบถามว่ามีพนักงานสอบสวนคนนี้อยู่ที่สถานีตำรวจจริงหรือไม่ โดยสามารถค้นหาเบอร์สถานีตำรวจได้จาก https://www.royalthaipolice.go.th/station.php หากสถานีตำรวจยืนยันว่ามีพนักงานสอบสวนที่ออกหมายเรียก ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีตำรวจจริง ให้ขอเบอร์ติดต่อจากสถานีตำรวจนั้น เพื่อติดต่อไปตรวจสอบว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไปจริงหรือไม่ หากพบว่าเป็นหมายเรียกปลอม ให้นำหมายเรียกปลอมไปติดต่อเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจที่รับผิดชอบ ในพื้นที่ที่ได้รับหมายเรียกปลอมนั้น เพื่อดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ
แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นหมายเรียกจริง แต่ไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามวันและเวลาที่กำหนด กรณีเป็นหมายเรียกพยาน อาจมีความผิดที่ไม่มาตามหมายเรียก แต่ในกรณีที่เป็นหมายเรียกผู้ต้องหา อาจเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนร้องขอต่อศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับได้
