ดีเอสไอ เผยออกหมายเรียกผู้ต้องหาคดีหุ้น STARK แล้ว 3 ราย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยออกหมายเรียกผู้ต้องหาคดีหุ้น STARK แล้ว 3 ราย ประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดงตาม ‘ชนินทร์’ หลังเงียบหาย ยืนยันไม่มีเจตนากลั่นแกล้งใคร
วันนี้ (12 ก.ค. 66) เมื่อเวลา 14.30 น. น.ส.พิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าคดีโกงหุ้น STARK โดยระบุว่า จากเดิมที่ ก.ล.ต.ร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลจำนวน 10 ราย ต่อดีเอสไอนั้น ขณะนี้มีการทยอยออกหมายเรียกผู้ต้องหาไปบ้างแล้ว 3 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ประกอบด้วย
1.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
2.นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตกรรมการและในฐานะผู้บริหารฝ่ายการเงินของบริษัท สตาร์คฯ
3.น.ส.ยสบวร อำมฤต เลขานุการของนายชนินทร์
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน พบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องในการร่วมกันตกแต่งบัญชีบริษัทและมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยง ซึ่งบางส่วนประสานมายังพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะทยอยเข้าพบภายในสัปดาห์หน้า ส่วนการยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมนั้น ดีเอสไออยู่ระหว่างเร่งติดตามรายการทรัพย์สินที่เหลือ โดยรายการทรัพย์สินที่ยึดอายัดไปก่อนหน้า ได้นำส่ง ปปง. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินต่อไปแล้ว
สำหรับนายชนินทร์ ภายหลังจากมีหมายจับของศาล เจ้าตัวยังไม่ได้ประสานกลับมายังดีเอสไอหรือมอบหมายทนายความส่งหนังสือขอเลื่อนชี้แจงแต่อย่างใด ส่วนนายศรัทธา และ น.ส.ยสบวร ทราบว่าจะทยอยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ อีก 7 รายที่เหลือ ซึ่งแบ่งเป็น 4 รายที่เป็นนิติบุคคล และอีก 3 รายเป็นบุคคลธรรมดานั้น ยังอยู่ในสถานะพยานเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน
รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า จากการอายัดทางทะเบียนรถยนต์หรูของนายชนินทร์จำนวน 4 คันนั้น ล่าสุดสามารถติดตามตัวรถได้ครบแล้ว โดยสองคันเป็นของนายชนินทร์ อีกสองคันอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ ส่วนผู้ครอบครองที่เป็นบุคคลใกล้ชิดนายชนินทร์ จะมีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน เนื่องด้วยพฤติกรรมซุกซ่อน ยักย้าย ถ่ายเททรัพย์หรือไม่ ต้องพิจารณาในส่วนของพฤติการณ์และเจตนาของการครอบครองว่าบุคคลนั้นทราบหรือไม่ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการทำธุรกิจหุ้นสตาร์ค
นอกจากนี้ ดีเอสไอประสานไปยังอินเตอร์โพล หรือ องค์การตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดง ติดตามนำตัวนายชนินทร์ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนการอายัดเงินบริษัทในกลุ่มสตาร์คนั้น มีข้อครหาว่ามีผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งดีเอสไอยืนยันว่าปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งผู้ใด และจะเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็ว เพราะส่งผลกระทบต่อตลาดทุน
