เลขาฯ ป.ป.ส. สั่งตั้งชุดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายกับ จนท.รัฐที่เกี่ยวข้องยาเสพติด

เลขาฯ ป.ป.ส. สั่งตั้งชุดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องยาเสพติดโดยตรง ยัน ไม่ประสานหน่วยงานอื่นร่วม หวั่น ข่าวรั่ว – ช่วยเหลือกัน มั่นใจ ไม่เป็นปัญหาระหว่างองค์กร
วันนี้ (11 มี.ค. 67) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ลงนามในคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่ 208/2567 เรื่อง แต่งตั้งชุดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ด้วยรัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และเด็ดขาด โดยให้เร่งลดความรุนแรงจากภัยยาเสพติดอย่างจริงจัง จับกุม และยึดอายัดทรัพย์สินและจัดการเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเอื้อประโยชน์แก่กระบวนการค้ายาเสพติด รวมถึงการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในกระบวนการสืบสวนจับกุม อันจะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภาพรวม และลดทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดของภาครัฐ ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสามารถเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการโยกย้ายหรือลงโทษทางวินัยต่อข้าราชการพนักงานส่วนท้องถิ่น พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐซึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตลอดจนขอให้หน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดเร่งรัดการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล อาศัยอำนาจตามความในมาตรา32 มาตรา 36 มาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับมาตรา 14 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด จึงแต่งตั้งชุดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังนี้
สำหรับหนังสือคำสั่ง ได้ระบุถึงหน้าที่ และอำนาจของชุดปฏิบัติการ ประกอบด้วย
1.กำหนดเป้าหมายจากการสืบสวน ขยายผล และจากเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ ที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อนำไปสู่การสืบสวน ขยายผล จับกุม ยึดอายัดทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
2.ร่วมปฏิบัติการสืบสวน ขยายผล จับกุม แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด
3.รายงานผลการปฏิบัติการ การจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทราบอย่าง ต่อเนื่อง หรือมีผลการปฏิบัติการที่สำคัญ
4.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมประเด็นนี้ว่า ส่วนใหญ่ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐตามแนวชายแดน มีพฤติการณ์ที่ให้การสนับสนุนการนำเข้ายาเสพติดเข้ามาในประเทศ ทั้งรูปแบบของการพักยา รับส่งยา ตบทรัพย์ หรือคอยเป็นหูเป็นตาให้ ซึ่งงานนี้ทาง ป.ป.ส. จะเป็นเจ้าภาพเอง และจะไม่มีการประสานหน่วยงานอื่นมาช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าการข่าวจะหลุดรั่ว และจะเกิดการช่วยเหลือกัน โดยย้ำชัดว่า จะไม่เป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานอย่างแน่นอน เพราะถ้าหากว่าหน่วยงานตนไม่ทำ ก็จะทำให้ปัญหายาเสพติดอยู่แบบเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ตนเลือกที่จะกวาดล้างยาเสพติดดีกว่าเพิกเฉยให้เจ้าหน้าที่รัฐทำผิดเสียเอง ในฐานะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติดโดยตรง ก็จะต้องลงมาจัดการบ้านของตนเอง หน่วยงานราชการต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มิเช่นนั้น จะทำให้ชาวบ้านศรัทธา และร่วมมือกันป้องกันปราบปรามยาเสพติดได้อย่างไร