CRIME

ป.ป.ส. แถลงจับ 3 ชาวผิวสี นำเข้าโคเคน 5,360 กรัม เตรียมปล่อยขายในสถาบันเทิง

ป.ป.ส. แถลงจับ 3 ชาวผิวสี นำเข้าโคเคน 5,360 กรัม เตรียมปล่อยขายในสถาบันเทิง ย่านสุขุมวิท พร้อมสั่งซีลตามชายแดนเพิ่ม 13 จังหวัด 39 อำเภอ

วันนี้ (11 มี.ค. 67) เวลา 11:00 น. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 นายอภิชาติ ใจงาม ผู้เชี่ยวชาญกองสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงจับกุมชายชาวผิวสี 3 คน ลักลอบนำเข้าโคเคน 5,360 กรัม ที่ส่งจากประเทศสหรัฐอเมริกา เตรียมปล่อยขายในสถานบันเทิง

สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า กลุ่มคนผิวสีเข้ามาจำหน่ายยาเสพติดบริเวณซอยนานา โดยวันที่ 6 มีนาคม ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย กรมศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย สำนักงาน ป.ป.ส. ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศ (ขาเข้า) เป็นของกลางโคเคน 5,360 กรัม ซุกซ่อนภายในแกนกลางราวเหล็กตากผ้าจำนวน 5 ชุด ต้นทางส่งพัสดุมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมจับกุมชายชาวผิวสี 3 คน ที่มารอรับพัสดุ ซึ่งเป็นสิ่งผิดปกติที่ราวตากผ้าจะถูกส่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

พล.ต.ท.ภานุรัตน์ กล่าวว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมาเปิดปฏิบัติการ “นานาอุ่นใจ” บริเวณพื้นที่ย่านนานาถนนสุขุมวิท พบว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีกลุ่มชาวอเมริกันตะวันตกนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมถึงยังแฝงอยู่กับปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ เช่น การค้าประเวณีที่มักจะมีการเสนอขายยาเสพติดให้กับลูกค้าด้วย ซึ่งกลุ่มผู้ค้าประเวณี จะได้รับส่วนแบ่งจากการขายยาเสพติดเหล่านี้ด้วย

จึงสั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. และชุดปฏิบัติการจับตากลุ่มเครือข่ายชาวแอฟริกันตะวันตกอย่างใกล้ชิด จึงพบการลักลอบนำเข้าโคเคนครั้งนี้ และได้ขยายผลตรวจคนห้องพักในพื้นที่ย่านบางขุนเทียนพบอุปกรณ์ซุกซ่อนยาเสพติด คือ พลาสติกแบ่งบรรจุ เครื่องชั่งดิจิทัล

พล.ต.ท.ภานุรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนเชื่อว่าเครือข่ายนี้เตรียมนำยาเสพติดไปจำหน่ายในสถานบันเทิง นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องชายทั้ง 3 คน จัดส่งยาเสพติดในพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยึดพัสดุซุกซ่อนยาเสพติดจำนวน 4 คดีขยายผลกับกลุ่มผู้ต้องหารวม 8 คนเป็นชาวสีผิว 7 คนหญิงไทย 1 คน ของกลางโคเคน 12.7 กิโลกรัม เอ็กตาซี 6,613 เม็ด

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีสถิติการจับกุมหรือตรวจยึดสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าอากาศยาน และพื้นที่ท่าเรือในห้วงปี 2565 ถึง 2566 พบว่ากว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายแอฟริกันตะวันตกนำเข้ายาเสพติดประเภทโคเคนจากอเมริกาใต้

อีกทั้งในปี 2565 สามารถจับกุมได้จำนวน 26 คดี โดยจับกุมผู้ต้องหา 32 ราย รวมทั้งของกลางเป็นโคเคน 59.215 กรัม ไอซ์ 15.157 กรัม เฮโรอีน 4.054 กรัม โดยในจำนวนนี้ เป็นผู้ต้องหาเครือข่ายแอฟริกันตะวันตก 13 คดี ผู้ต้องหา 13 คน และของกลางเป็นโคเคน 23.09 กรัม

ส่วนในปี 2566 สามารถจับกุมได้ที่ 41 คดี มีผู้ต้องหา 49 ราย โดยของกลางเป็นเฮโรอีน 184.91 กิโลกรัม ไอซ์ 166.744 กิโลกรัม โคเคน 48.439 กิโลกรัม เคตามีน 73.345 กิโลกรัม ยาบ้า 12 เม็ด และเอ็กตาซี 3,598 เม็ด โดยในจำนวนนี้ เป็นผู้ต้องหาเครือข่ายแอฟริกันตะวันตก 20 คดี ผู้ต้องหา 24 คนและของกลางเป็นโคเคน 35.959 กิโลกรัม เฮโรอีน 8.97 กิโลกรัม

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากการร่วมมือกันกับหลายหน่วยงานในการป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยาน และท่าเรือแล้ว ยังเตรียมที่จะเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ส. ในการเพิ่มการเฝ้าระวังป้องกันชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 13 จังหวัด 39 อำเภอ เพื่อป้องกันการสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน

Related Posts

Send this to a friend