CRIME

สืบนครบาล ควบคุมตัว ‘จ่าเอ็ม‘ ดำเนินคดี ผบช.น. เตรียมสอบเข้ม ขยายผลหาผู้ร่วมก่อเหตุ

สืบนครบาล ควบคุมตัว ‘จ่าเอ็ม‘ ดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผย เจ้าตัว ให้การรับสารภาพทุกข้อหา ด้าน ผบช.น. เตรียมสอบเข้ม ขยายผลหาผู้ร่วมก่อเหตุ

วันนี้ (11 ธ.ค. 68) เวลา 13:45 น. ที่กองบินตำรวจ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และชุดสืบนครบาล นำตัวนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือ จ่าเอ็ม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียิง นายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้าน ประเทศกัมพูชา เพื่อมาดำเนินคดีต่อที่ สน.ชนะสงคราม โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าหน่วยอรินทราช 26 มารอรับ

เมื่อนายเอกลักษณ์ เดินทางมาถึง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกลักษณ์ได้สวมเสื้อยืดสีขาว และเสื้อเกราะกันกระสุน กางเกงสีน้ำตาล หมวกสีขาวพร้อมสวมแมสก์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ ขึ้นรถตู้ยี่ห้อ ฮุนไดสีขาว โดยมีรถคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ ทั้งหน้า และหลัง พร้อมกำลังพลของหน่วยอรินทราช 26 พร้อมอาวุธครบมืออีกหลายนาย

พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า จากการซักถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง“ ซึ่งในรายละเอียดต่างๆ ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรชัดเจน เบื้องต้นตนมีหน้าที่ไปรับตัวผู้ต้องหาเพื่อนำมาส่งต่อให้กับทางพล.ต.ท.สยาม ได้ดำเนินการนำตัวไปสอบสวนต่อ

สำหรับในประเด็นอื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนสั่งการหรือมีผู้ช่วยหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชาหรือไม่ รวมถึงเรื่องเส้นเงิน 60,000 บาท ที่เข้ามายังบัญชีผู้ก่อเหตุ และแรงจูงใจในการก่อเหตุจะเกี่ยวพันการเมืองหรือไม่นั้น พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเนื่องจากว่าในวันนี้เพียงแค่ไปรับตัวมา ซึ่งหลังจากนำตัวส่งให้กับทาง บช.น. แล้ว กระบวนการสอบสวนถึงจะเริ่มขึ้น โดยเบื้องต้น จากที่ตนสังเกตสีหน้าของผู้ต้องหานั้นก็ดูเครียด แต่นิ่ง ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการไปรับตัวผู้ต้องหามา มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรกับประเทศกัมพูชาหรือไม่ พล.ต.ท.สมประสงค์ ยืนยันว่า ไม่มี

ด้าน พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า สำหรับการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น จะต้องสอบปากคำตัวผู้ต้องหา และขยายผลเพิ่มเติมก่อนว่ามีผู้ใดบ้าง หากพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้องก็จะมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งตัวน้องสาวและตัวคนชี้เป้า

สำหรับข้อมูลของคนชี้เป้านั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้ได้ เบื้องต้น ทราบว่าเป็นคนประเทศกัมพูชา หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ใจว่าสามารถนำตัวของผู้ชี้เป้ามาดำเนินคดีได้ ส่วนเรื่องผลตรวจอาวุธปืนนั้น จะต้องรอข้อมูลจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจก่อน

อีกทั้ง จากการซักถามภรรยาผู้เสียชีวิตนั้น ตัวภรรยาไม่รู้จักกับตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด ผู้เสียชีวิต และภรรยาเดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาเที่ยวเท่านั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคิดว่าเป็นเหตุซึ่งหน้าหรือมีการวางแผน พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า คิดว่าน่าจะเป็นการวางแผน เพราะมีการล็อคเป้าอย่างชัดเจน และเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่

เมื่อถามต่อว่า ในแชทของผู้ต้องหาที่ระบุถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย จะมีการตรวจสอบหรือไม่ พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า ตรงนี้จะต้องรอสอบสวนก่อน แต่เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้มีข้อมูลในเรื่องนี้

Related Posts

Send this to a friend