CRIME

รมว.ยุติธรรม ประชุม คกก.ราชทัณฑ์ พิจารณาหลักเกณฑ์คุมผู้ต้องขังนอกเรือนจำ

ย้ำ ไม่ได้ออกระเบียบเอื้อ ‘ทักษิณ‘ แต่เป็นจังหวะที่รัฐบาลใหม่เข้ามาพอดี โยน ราชทัณฑ์ ทำความเข้าใจกับประชาชน ด้าน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยันทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ ปัดตอบทักษิณเข้าเกณฑ์ใหม่หรือไม่ โยนให้ ผบ.เรือนจำเป็นผู้พิจารณา

วันนี้ (11 ม.ค. 67) เวลา 13:00 น. ที่กรมราชทัณฑ์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมประชุมกับคณะกรรมการราชทัณฑ์ เพื่อออกหลักเกณฑ์คัดกรองผู้ต้องขัง ที่เข้าข่ายตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 เพื่อพิจารณาให้นักโทษที่เข้าเกณฑ์ ได้คุมขังนอกเรือนจำ

ภายหลังการประชุม พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่าวันนี้ได้มีการรับทราบความคืบหน้าของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่มีการออกระเบียบดังกล่าว ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา จึงนำเข้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ร่วมรับทราบ พร้อมยืนยันว่า การประชุมในวันนี้ไม่ได้มีการระบุถึงตัวบุคคลหรือสถานที่ เช่นกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนอกเรือนจำ เกิน 120 วัน แต่เป็นการพูดถึงภาพรวมของระเบียบให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ออกมา ซึ่งได้กำชับให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับกรณีที่มีการออกระเบียบมาในช่วงเวลานี้พอดี ว่าเป็นไปตามวาระที่ต้องมีการขับเคลื่อน และเป็นจังหวะที่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาพอดี

ส่วนกรณีของนายทักษิณ จะเข้าข่ายได้รับสิทธิประโยชน์จากหลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพียงว่า ให้เป็นไปตามอำนาจของผบ.เรือนจำแต่ละแห่งไปพิจารณาคัดเลือก พร้อมย้ำว่าการให้ไปคุมขังที่อื่นไม่ใช่การปล่อยตัวออกไปเพราะหากจะปล่อยตัวต้องขอศาลออกหมายโดยระเบียบลักษณะนี้ ในต่างประเทศก็มีการดำเนินการเหมือนกัน

ด้าน นายสหการณ์ เปิดเผยถึง การออกระเบียบที่ราชทัณฑ์ออกมา สอดคล้องกับช่วงที่นายทักษิณ พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำนั้น นายสหการณ์ ระบุว่า เป็นการประชุมตามวาระ ซึ่งจะเป็นการประชุมขับเคลื่อนงานในส่วน พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ส่วนการนำวาระต่างๆ เข้ามาในที่ประชุมเป็นวาระที่เกี่ยวเนื่องกับรัฐบาล และรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ทั้งเรื่องสถานที่ การควบคุมตัวระหว่างการดำเนินคดี และระเบียบที่จะต้องรายงานกรรมการ และอนุกรรมการให้ทราบ ซึ่งผู้ต้องขังรายอื่น และนายทักษิณ จะเข้าหลักเกณฑ์ในกฎระเบียบที่ราชทัณฑ์ออกมา ที่มีการบังคับใช้ตั้งแต่ 6 ธันวาคม 2566 หรือไม่นั้น นายสหการณ์ ระบุว่า เรื่องนี้ผู้บัญชาการแต่ละเรือนจำ จะเป็นผู้พิจารณา ว่าผู้ต้องขังรายใดเช้าหลักเกณฑ์

ส่วนกรณี นายทักษิณ พักรักษาตัว ที่ รพ.ตำรวจ เกิน 120 วัน ก็เป็นไปตามกฎกระทรวง ของการพิจารณาผู้ต้องขังที่เจ็บป่วย ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยายาลภายนอก ซึ่งเป็นอำนาจที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ และที่กมธ.ตำรวจ จะขอเข้าไปศึกษาดูงานที่ รพ.ตำรวจ ในวันพรุ่งนี้ ทราบว่า รพ.ตำรวจได้อนุญาตให้เข้าไป แต่จะดูในส่วนใดบ้าง ก็ต้องดูตามความเหมาะสม ส่วนของกรมราชทัณฑ์ได้ตอบรับไปแล้ว ซึ่งเป็นการตัดสินใจของผู้บัญชาการเรือนจำที่จะต้องพิจารณาตามระเบียบที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน

สำหรับการจะพักรักษาตัวของนายทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจจะมีระยะเวลานานเพียงใดนั้น นายสหการณ์ ระบุว่า ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัย และความเห็นของแพทย์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลว่าจะถูกดำเนินคดี ม.157 หรือไม่ หลังมีหลายฝ่ายร้องกับ ป.ป.ช. นายสหการณ์ ระบุว่า ไม่มีความกังวล ไม่ได้ดำเนินการโดยพลการ ทำตามที่หลักกฎหมายกำหนดไว้ โดยยืนยันว่าการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ระเบียบภายใต้กฎหมาย ที่จะต้องขับเคลื่อนเดินหน้านโยบายต่างๆ ส่วนที่มีการกล่าวหา เช่น ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติตัวบุคคล มองว่าเป็นมุมมองของแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม นายสหการณ์ ยืนยันอีกว่า การชุมนุมของกลุ่ม ศปปส. และ คปท. ในวันพรุ่งนี้ ทางกรมราชทัณฑ์ไม่ได้จัดกำลังดู และเพิ่มเติมแต่อย่างใด ยังคงเป็นตามหลักเกณฑ์เดิม และไม่ได้กดดันการทำงานในส่วนกรมราชทัณฑ์

Related Posts

Send this to a friend