‘ชูวิทย์’ แฉมีขบวนการพยายามทำลายหลักฐานคดีตู้ห่าว จี้ ถอนประกัน หลังพบเสนอเงินปิดปากพยาน
‘ชูวิทย์’ แฉ มีขบวนการพยายามทำลายหลักฐาน จี้ ตำรวจ-อัยการ ถอนประกัน บุคคลในคดี ‘ตู้ห่าว’ หลังพบ เสนอเงินผ่านตัวกลางเพื่อขอปิดปากพยานในคดี
วันนี้ (11 ม.ค. 66) เวลา 13:30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าร่วมรับฟังการประชุมของคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ และคณะทำงานของพาลีปราบยา กระทรวงยุติธรรม นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด และยื่นเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มทุนจีนสีเทา รวมทั้งขอให้เร่งตั้งข้อหาฟอกเงินกับนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือนาย ‘ตู้ห่าว’ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด
นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องการฟอกเงิน ส่วนประเด็นที่ยังติดใจอยู่ คือเรื่องของการแจ้งข้อหาฟอกเงินให้กับเครือข่ายของนายตู้ห่าว เช่น นางพัชรินทร์ อิทธิพัฒนา พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ (ภรรยานายตู้ห่าว) นายสิทธิไพบูลย์ คำนิล เป็นต้น แต่กลับไม่มีการตั้งข้อหาฟอกเงินแก่นายตู้ห่าว
ดังนั้น เท่ากับว่าเป็นการตั้งข้อหาแค่กับผู้สนับสนุนเท่านั้น แต่ตัวการนั้นยังไม่ได้ถูกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าแปลกใจ และถึงแม้นายตู้ห่าวจะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าไปแจ้งข้อหาได้ เพราะใกล้เวลาที่ตำรวจจะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดแล้ว และการแจ้งข้อหาฟอกเงินจะส่งผลถึงการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินต่างๆ ด้วย
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะให้ข้อมูลที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งกำลังดูเรื่องการฟอกเงิน โดยเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนอมินีของนายตู้ห่าว ที่มีอยู่เยอะมาก เพราะมีบริษัทหลายสิบบริษัท นอกจากนี้ ตนก็ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพนันออนไลน์ ซึ่งไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีน และการฟอกเงินด้วย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด หรือ สำนักงาน ปปง. และได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในสำนักงาน ปปง. มานาน ก็ยังบอกเลยว่า สำนักงาน ปปง. ไม่มาปรากฎตัวในเรื่องนี้เลย ทั้งที่เป็นหน่วยงานสำคัญ ดังนั้น จึงขอตั้งคำถามไปยังสำนักงาน ปปง.ว่า ยังมีหน่วยงานนี้อยู่หรือไม่ และทำไมนายตู้ห่าวจึงยังไม่โดนแจ้งข้อหาฟอกเงิน
นายชูวิทย์ เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้มีขบวนการทำลายพยานหลักฐาน โดยพยานปากเอกของตนที่เป็นบุคคลใกล้ชิด ที่รู้เห็นเรื่องเงินทองของนายตู้ห่าว รวมถึงเรื่องยาเสพติด ซึ่งพยานคนดังกล่าวนี้ได้ถูกบุคคลหนึ่ง ซึ่งได้รับการประกันตัวจากคดีนี้พยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน เสนอเงินเพื่อปิดปากไม่ให้มาให้การ โดยมีการเรียกให้ไปรับเงิน ซึ่งตนมั่นใจว่าพยานที่อยู่ในสำนวนของตำรวจ จะไม่ให้การที่เป็นประโยชน์ในชั้นศาล และถ้าพยานปากเอกของตนเองถูกทำลาย ก็จะกระทบต่อการพิจารณาของศาล และหากนายตู้ห่าวหลุดคดี ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมแน่นอน
ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ถอนประกันบุคคลดังกล่าว และขอเตือนตำรวจ พนักงานอัยการและทุกคนที่เกี่ยวข้องให้ระวังขบวนการทำลายพยานหลักฐานด้วย และเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าบุคคลดังกล่าวที่เป็นคนกลางในการเสนอเงินแก่พยานปากเอกของนายชูวิทย์คือใคร นายชูวิทย์ได้มีการยกมือป้องปากกระซิบเบาๆ ระบุว่า ทนาย
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังทิ้งท้ายด้วยว่า ขณะนี้ตนมีข้อมูลชุดสุดท้ายที่เหลืออีก 20% ถือเป็นไคลแมกซ์ของเรื่องทุนจีนสีเทา ซึ่งข้อมูลสำคัญนี้จะมอบให้แก่ผู้ที่มีความสามารถในการอภิปรายในสภา ซึ่งจะทำเห็นว่าเรื่องนี้เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ และเป็นคดีนอกราชอาณาจักรอย่างแท้จริง โดยยอมรับตามตรงว่าแม้แต่ตนเองก็ยังไม่กล้าพูด เพราะมันเกี่ยวพันไปถึงหลายส่วน และจะเห็นชัดเจนว่าผู้ที่เกี่ยวข้องมีความบกพร่อง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังนายชูวิทย์ได้ร่วมฟังประชุมเสร็จ ผู้สื่อข่าวถามว่าพอใจกับการร่วมประชุมครั้งนี้หรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า พอใจอยู่แล้ว เพราะมีการขยายผลคดีของนายตู้ห่าว และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยคดีตู้ห่าวมองว่าปัญหาที่สามารถยึดทรัพย์สินได้น้อย เกิดจากความล่าช้า รวมทั้งถามเรื่องการยึดทรัพย์เงินสด และทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ ว่าได้ดำเนินการยึดอะไรมาได้แล้วบ้าง
ส่วนเรื่องของขบวนการทำลายหลักฐาน นายชูวิทย์ระบุว่าได้แจ้งต่อที่ประชุมไปแล้ว ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่จะต้องดูแล พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ปปง.ควรจะเข้ามาได้แล้ว หายไปเลย
