CRIME

รอง ผบ.ตร. สั่งปูพรมค้นเครือข่ายทุนจีนสีเทา 18 จังหวัด 53 จุด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงผล หลังสั่งการให้ชุดสืบสวนประสานความร่วมมือไปยัง บช.น. ,บช.ภ.1 , บช.ภ.2 ,บช.ภ.3 ,บช.ภ.4 , บช.5 บช.ภ.7 สตม. และ บช.ทท. เปิดปฏิบัติการเข้าค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 53 จุด อยู่ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ ลำพูน น่าน หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา ยโสธร อำนาจเจริญ ขอนแก่น และอุดรธานี

ผลการตรวจค้น กลุ่มที่ 1. มูลนิธิและสถานศึกษา ตรวจยึดเอกสารการสมัครเรียนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบความผิดปกติจำนวนมาก ส่วนกลุ่มที่ 2 ผับเบบี้เฟส ซูเปอร์คลับ เอกมัย ตรวจยึด/อายัดทรัพย์ ซึ่งจะมีการตรวจสอบถึงเจ้าของหรือผู้เปิดมูลนิธิหรือสถานที่เหล่านี้ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยว่า ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนจีนสีเทาหรือไม่ หากพบการกระทำความผิดจะขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งนพื้นที่ ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายนี่ ยี่โป (Mr.NI YIBO) เอเยนต์รับต่อวีซ่าให้กลุ่มชาวจีน ด้วยการขอวีซ่าประเภทมูลนิธิผ่านมูลนิธิครีเอทิ่ง บาลานซ์ ตรวจพบว่ามีการสวมสิทธิ์ นำชื่อของนายกรกฤต แสดงตนเป็นบิดาของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) ที่แท้จริงแล้วเป็นบุตรของนายนี่ ยี่โป (Mr.NI YIBO) กับนางเกา หยาง (MRS.GAO YANG) เพื่อให้ ด.ญ.เอ ได้สัญชาติไทย

เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับนายนี่ ยี่โป (Mr.NI YIBO ) และนางเกา หยาง (MRS.GAO YANG) ในความผิดฐาน “ร่วมกันทำ ใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนี่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ. การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 มาตรา 50 ประกอบ ป.อาญา มาตรา 83, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็น เท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ตาม ป.อาญามาตรา 137, 83 และร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จ ลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม ป.อาญา มาตรา 267,83 ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

“การตรวจค้นทั้งหมด เราพบหลักฐานเป็นเอกสารจำนวนมาก ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับผู้ทื่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนตำรวจ ตม. ที่มีเอี่ยวกับกลุ่มทุ่นจีน ตอนนี้อยู่ในระหว่างรวมรวบหลักฐาน คาดว่าอาทิตย์หน้าจะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ ส่วนใครจะโดนบ้างต้องรอดูอาทิตย์หน้า บอกได้แค่ว่าเยอะมาก หลายคน ตอนนี้เราก็จะเร่งปราบปรามอย่างหนักกับกลุ่มทุนจีน เพราะยังเหลืออีกมาก เราต้องปราบก่อนจะเกิดความล่มสลาย” รอง ผบ.ตร. กล่าว

Related Posts

Send this to a friend