CRIME

’โตโต้ ปิยรัฐ‘ พร้อมทีม ส.ก. ทวงถามความคืบหน้ากรณีชั่งน้ำหนักรถบรรทุกที่ตกบ่อถนนสุขุมวิท

หลังล่วงเลยเวลาตามที่นัดหมาย ด้าน รรท.น.5 ยืนยัน จะดำเนินการอย่างเต็มที่ หากน้ำหนักเกิน เตรียมดำเนินคดีเพิ่ม และอายัดรถ

วันนี้ (9 พ.ย. 66) เวลา 16:00 น. นายปิยรัฐ จงเทพ สส.บางนา – พระโขนง พร้อมด้วย นายสราวุธ อนันต์ชล ส.ก. เขตพระโขนง พรรคก้าวไกล มาติดตามความคืบหน้าการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกที่ประสบเหตุตกถนน บริเวณสุขุมวิท 64/1 ที่ สน.พระโขนง โดยภายหลังร่วมพูดคุยกับคณะทำงานในคดีของกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 สน.พระโขนง และสำนักงานเขตพระโขนง นายปิยรัฐ เปิดเผยว่า ได้สอบถามจาก บก.น. 5 ว่าจะดำเนินการอย่างไร ในเรื่องการชั่งน้ำหนัก และจะชั่งน้ำหนักในเวลานี้หรือไม่ เพราะเลยเวลามานานพอสมควรแล้ว จากกำหนดเดิมที่จะชั่งในช่วง 14:00 น.

พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ยืนยัน และเต็มใจในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ และเร่งรัด ให้เจ้าหน้าที่นำลากอุปกรณ์ชั่งน้ำหนักมาที่ สน.พระโขนง ซึ่งกำลังจะเดินทางมาอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง จะมาถึง และเริ่มชั่งน้ำหนัก

นายปิยรัฐ ได้อธิบายถึงการดำเนินการต่อจากนี้ เมื่อเครื่องช่างน้ำหนักมาถึง ขั้นตอนแรกจะใช้รถยก เพื่อเป็นตัว control รถบรรทุกคันเกิดเหตุในการเคลื่อนหน้า เดินหลัง เนื่องจากว่ารถไม่สามารถสตาร์ท หรือขยับได้ด้วยเครื่องยนต์เอง ต้องใช้รถยกในการลากสไลด์ ซึ่งอุปกรณ์ช่างน้ำหนัก จะเป็นการช่างตามสากล ที่จะชั่งจากหน้ารถก่อน เนื่องจากว่าไม่สามารถชั่งได้ทั้งคันพร้อมกัน ซึ่งนี่คือสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ต้องซ่อมล้อรถก่อน

โดยการชั่ง จะชั่งล้อหน้าคู่แรกก่อน และช่างล้อคู่หลังและจะชั่งทั้งหมดรวมสามครั้ง และเอาจำนวนตัวเลขสามครั้งมาบวกกัน จึงจะเป็นน้ำหนักทั้งหมดของรถ ซึ่งคือขั้นตอนของกระบวนการชั่งน้ำหนัก

นายปิยรัฐ เผยว่า จะใช้เวลาในการชั่งไม่เกินครึ่งชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องมีการปิดช่องจราจร ตั้งแต่ฝั่งเกาะกลางถนน ออกมาหนึ่งเลน และจะวิ่งได้แค่สองเลนที่เหลือเท่านั้น หากเป็นไปได้อยากจะขอความร่วมมือและประชาชน ในช่วงหลัง 17:00 น. อาจจะต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรตั้งแต่ สน. พระโขนงเป็นต้นไป

ส่วนเรื่องการดำเนินคดี ในกรณีที่บรรทุกน้ำหนักเกิน ทาง น.5 ก็ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องจับตามองของสังคม และเป็นตัวอย่างเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการขั้นเด็ดขาด ขณะที่คนขับรถ ทางตำรวจได้ตัวมาแล้ว เหลือเพียงแค่ดำเนินคดีเพิ่มในกรณีที่บรรทุกน้ำหนักเกิน โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการยึดรถหากน้ำหนักเกิน

สำหรับเรื่องส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกใน กทม. นั้น นายปิยรัฐ ระบุว่า เบื้องต้น กรุงเทพฯ อาจจะไม่มากเท่าในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าทางหลวงของแต่ละเส้นทางก็จะใช้มาตรการที่แตกต่างกัน ส่วนเรื่องทะเบียนรถ ทางประธานสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย ก็ยืนยันว่ารถบรรทุกใช้แบบนี้กันทั่วไปแล้ว และสิ่งที่เราเห็นไม่ใช่เพราะปัญหาหนักขึ้น แต่เป็นเพราะสังคมช่วยกันจับจ้องในประเด็นนี้มากกว่า จึงทำให้เห็นถี่ขึ้น โดยส่วนตัวมองว่าปัญหาเรื่องนี้ลดลงไป แต่ตนไม่มั่นใจว่าจะมีรูปแบบส่วยในอนาคตแบบไหนต่อไป

Related Posts

Send this to a friend