DSI เผยคดียาเสพติด ‘Happy Water’ เกี่ยวพันกับเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่

วันนี้ (9 พ.ค. 66) นายพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการกองคดียาเสพติด และ นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน กรณีที่มีการแพร่กระจายของยาเสพติดตัวใหม่ ‘Happy Water’ ซึ่งเกี่ยวพันกับกรณีผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2566

ผู้อำนวยการกองคดียาเสพติด เปิดเผยว่า นายภาคภูมิ แสงนิล ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 36/2566 ซึ่งเป็นคดีต่อเนื่องกับคดีพิเศษที่ 288/2565 กรณีกลุ่มโบรกเกอร์บัญชีม้าของกลุ่ม นายสุทิน ใจสนุก ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ โดย นายภาคภูมิ เกี่ยวข้องในการซื้อบัญชีม้าจาก นายสุทิน มาใช้ในธุรกิจผิดกฎหมายของตน นำเข้าและจำหน่ายยาเสพติดให้กลุ่มขบวนการเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มผู้ใช้บริการสถานบันเทิง

ต่อมา กองคดียาเสพติดดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนพบว่า นายภาคภูมิ เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ อาทิ lucabet666, newclear999, spinix234 และอื่น ๆ จำนวน 28 เว็บ และยังพบข้อมูลว่า นายภาคภูมิ นำยาเสพติดไปใช้กับกลุ่มเครือข่ายเพื่อนเพื่อกระทำชำเรา และมีผู้เสียชีวิต ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้ติดต่อมายังผู้อำนวยการกองคดียาเสพติด จนได้ประสานไปยังประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีดังกล่าว

ภายหลัง คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ขออนุมัติหมายจับ นายภาคภูมิ กับพวก รวม 5 ราย ในข้อหาฟอกเงินและจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ฯ เกี่ยวกับเว็บไซต์ ทั้ง 28 เว็บ พร้อมยึดอายัดเงินในบัญชีเครือข่ายเว็บไซต์ไว้ 83 บัญชี มูลค่ารวมกว่า 27 ล้านบาท และประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กอ.รมน. ติดตามจับกุมตัว นายภาคภูมิ กับพวก ซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก่อนจะจับกุมตัวนายภาคภูมิ และควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรคลองลึก จังหวัดสระแก้ว เพื่อเตรียมนำตัวมาส่งให้กองคดียาเสพติด แต่พบว่านายภาคภูมิ ได้เสียชีวิตในห้องขัง ซึ่งเชื่อว่าเป็นการผูกคอตัวเอง

ผู้อำนวยการกองคดียาเสพติด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายภาคภูมิ ยังไม่ถูกแจ้งข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติแจ้งข้อหาสมคบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดไปยัง สำนักงาน ป.ป.ส. ตามกฎหมาย โดยพฤติการณ์ คือ นำเข้าและซื้อยาเสพติดหลายชนิดมาผสมเป็นสูตรของตัวเอง เรียกว่า ‘Happy Water’ ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทในหลายรูปแบบ ทั้งกระตุ้นประสาท หลอนประสาท กล่อมประสาทและกดประสาท ขึ้นอยู่กับว่าจะใส่ยาตัวใดเป็นหลัก ผู้ใช้ยาตัวนี้ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีฐานะทางสังคม ผู้เที่ยวสถานบันเทิง หรือกลุ่มปาร์ตี้ในพื้นที่ส่วนบุคคล โดยตัวยามีผลต่อความต้องการทางเพศของผู้หญิง และหากใส่เกินขนาดจะทำให้ระบบหัวใจล้มเหลว เป็นอันตรายต่อชีวิต