CRIME

รอง ผบช.ก. คาดฝากขัง ’ทนายตั้ม’ วันนี้ ค้านประกันตัว เหตุยุ่งเหยิง และข่มขู่พยาน

รอง ผบช.ก. ไม่สน ’ทนายตั้ม’ อ้าง แต่งตัวรอมา 5 วัน แต่ตำรวจไม่มาจับ ชี้ ตำรวจเพิ่งมีหลักฐานเพียงพอขอออกหมายจับ คาดฝากขังในวันนี้ พร้อมค้านประกันตัว เหตุยุ่งเหยิง และข่มขู่พยาน พร้อมเตรียมค้นสำนักงานทนายเพิ่มอีก 1 จุด

วันนี้ (8 พ.ย. 67) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบปากคำนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และภรรยา ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้การในรายละเอียดในมุมของตนเองที่ต้องการแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนไว้ แต่ก็เป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ และมีการแก้คำให้การเป็นเรื่องปกติตามขั้นตอน ตราบใดที่ผู้ต้องหายังไม่ลงชื่อรับรองคำให้การ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ต้องหาให้การก็แสดงให้เห็นถึงเจตนาบางอย่าง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ รวมถึงทั้งคู่บอกด้วยว่า จะทำหนังสือคำให้การมาชี้แจงเพิ่มเติมภายใน 15 วัน

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้ง 2 คนก็ยังมีอาการเครียดตลอดทั้งคืน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการถูกควบคุมตัว แต่ก็ยังไม่ได้มีการร้องขอสิ่งใดเพิ่มเติม และคาดว่าวันนี้พนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ข่มขู่พยาน และมีพฤติการณ์หลบหนี

ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้หลบหนี แค่ไปทำบุญนั้น ก็ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงในเรื่องของพยานหลักฐาน เพียงได้ตัวมาก็ถือว่าดำเนินการแล้วเสร็จ และที่นายษิทรา อ้างว่าแต่งสูทรอมา 5 วันแล้ว แต่ตำรวจไม่ไปจับกุม ก็ไม่ได้มีผล เพราะต้องขึ้นอยู่กับว่าตำรวจได้พยานหลักฐานที่เพียงพอต่อการขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อใด ดังนั้นจะแต่งตัวรอนานแค่ไหน หากตำรวจไม่มีหมายจับก็ยังจับไม่ได้

ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างไปขอศาลอนุมัติหมายเข้าตรวจค้นสำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม ย่านสาทร ของนายษิทราในวันนี้ด้วย ส่วนการเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้ 2 จุด พล.ต.ต.สุวัฒน์ ยืนยันว่า ตำรวจได้ยึดพยานหลักฐานสำคัญที่สามารถใช้พิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของนายษิทราไว้ได้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และได้มีการอายัดบัญชีที่รับเงินจากฝ่ายผู้เสียหาย ซึ่งพยานหลักฐานชัดเจนโดยตรงแล้ว ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ได้รายงานให้ ปปง. ดำเนินการต่อ

สำหรับการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดคนอื่นๆ นั้น พล.ต.ต.สุวัฒน์ ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะต้องดำเนินคดีเพิ่มเติม แต่ต้องขอระยะเวลาสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนก่อน และจะยังเน้นไปที่คดีปมเงิน 71 ล้านบาท , ค่ารถหรู 13 ล้านบาท , และค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาท และนอกจาก 3 ส่วนนี้แล้ว ก็ยังมีปมเงินอีก 1 ส่วนที่ตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้ต้องหาเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการบันทึกเอกสารก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat