CRIME

ตำรวจปรับยุทธวิธี เข้ายึดพื้นที่โดยรอบ แฟลตดินแดง ก่อนม็อบรวมตัวชุมนุม

ตำรวจนครบาล ปรับยุทธวิธี เข้ายึดพื้นที่โดยรอบแฟลตดินแดง ก่อนม็อบรวมตัวชุมนุม ขณะที่ การตามตัวคนยิงตำรวจ พอมีข้อมูลแล้ว พบวิถีกระสุนมาจากมุมสูง เจตนาฆ่าชัดเจน

พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังจากมีการก่อความไม่สงบ และมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณแฟลตดินแดง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เมื่อวานนี้ (7 ต.ค. 64) ตำรวจนครบาล ได้ปรับแผนเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณโดยรอบแฟลตดินแดง ก่อนที่กลุ่มทะลุแก๊สจะรวมตัว จนถึงเวลา 04.00 น. ไม่พบการรวมตัวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จึงถอนกำลัง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ใช้แผนดำเนินการเชิงรุกมากขึ้น จากเดิมที่เน้นดูแลพื้นที่สาธารณะ แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุ มีการใช้ความรุนแรงมากขึ้น ตำรวจจึงใช้การเข้ายึดและควบคุมพื้นที่ โดยใช้ตำรวจชุดป้องกันปราบปรามทั่วไป และจะมีการจัดหายุทโธปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติ เช่น หมวกกันกระสุน ซึ่งปฏิบัติการนี้ ได้รับความร่วมมือจากคนในชุมชนแฟลตดินแดง เป็นอย่างดี จึงจะใช้วิธีการนี้ต่อเนื่อง โดยประชาชนในพื้นที่ ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และหากกลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนย้ายไปยังจุดอื่น ตำรวจได้มีการวางกำลังเตรียมพร้อมไว้แล้ว 

สำหรับความคืบหน้าอาการของ สิบตำรวจตรีเดชวิทย์ เล็ทเทนสัน หรือ หมู่เดวิด ผู้บังคับหมู่กองกำกับการอารักขา 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ที่ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมบริเวณแฟลตดินแดง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุด รู้สึกตัว ลืมตาได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยยังต้องเฝ้าระวังอาการทางสมอง และทางเดินหายใจอย่างใกล้ชิด 

ส่วนความคืบหน้าการหาตัวผู้ก่อเหตุ ตำรวจพอมีข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ใด ยืนยัน มีเจตนาฆ่า เล็งเห็นผลถึงชีวิต เนื่องจาก วิถีกระสุนพบว่า ยิงมาจากที่สูง ส่วนชนิดของกระสุน อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐาน ขณะที่ ผลการจากปิดล้อมแฟลตดินแดงตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ ที่สามารถจับผู้ร่วมชุมนุมได้กว่า 70 คน พบว่า มีการชักชวนกันมาชุมนุมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการให้การเรื่องอาวุธปืน และระเบิดแสวงเครื่อง แต่ยังไม่ยืนยันว่า ในจำนวนนี้ มีผู้ก่อเหตุยิงหมู่เดวิดหรือไม่

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังย้ำเตือนว่า ผู้ที่มีหมายจับในคดีค้างเก่า หรือเคยเข้าร่วมการชุมนุม หากพบมีการกระทำผิดซ้ำ ตำรวจจะขอศาลพิจารณาลงโทษสถานหนัก รวมทั้ง ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ดูแลบุตรหลาน ที่อาจถูกชักจูงให้เข้าร่วมก่อความวุ่นวาย เนื่องจาก หากพบปล่อยปละละเลย ก็ถือว่า มีความผิดด้วย

ส่วนวันนี้ ยังต้องเฝ้าระวังการนัดหมายของกลุ่มทะลุแก๊ส บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง ที่เชื่อว่า จะมีการก่อความวุ่นวายในพื้นที่ และเคลื่อนที่ไปยังบริเวณใกล้เคียง โดยตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และมอบหมายผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว

Related Posts

Send this to a friend