จีน ลงพื้นที่แม่สอด ติดตามการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ในรอบ 5 เดือน
รองอธิบดีสำนักงานสืบสวนอาชญากรรม กรมความมั่นคงสาธารณะ จีน ลงพื้นที่แม่สอด ติดตามการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ในรอบ 5 เดือน หลังไทยมีมาตรการ 3 ตัด และช่วยเหยื่อชาวจีนที่ส่งกลับประเทศจีนไปแล้วรวม 5,414 คน
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 นายเฉิน เจี้ยนเฟิง รองอธิบดี สำนักงานสืบสวนอาชญากรรม กรมความมั่นคงสาธารณะ ของประเทศจีน พร้อมคณะ รวมทั้งหมด 11 คน เดินทางไปฝั่งประเทศเมียนมา ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เมืองเมียวดี รัฐกระเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อรวมประชุมติดตามการแก้ปัญหาสแกมเมอร์และแก๊งค์คอลเซนเตอร์ หลังไทยมีการตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอเน็ตและน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
การเดินทางของ นายเฉิน เจี้ยนเฟิง มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการเมียนมาจากกรุงเนปิดอ เมืองหลวงเมียนมา มากับคณะทางการจีนด้วย สำหรับประเด็นที่จะมีการหารือร่วมกัน คือการช่วยเหลือชาวจีน ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดเมียวดี รวมทั้งการขอความร่วมมือจับกุมขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ยังมีอยู่ในพื้นที่ของเมียนมา และให้การช่วยเหลือเหยื่อชาวจีนซึ่งได้รับการประสานช่วยเหลือร่วมกันทั้ง 3 ประเทศ จากทางการเมียนมา – ไทย และจีน โดยมีคนจีนที่ส่งกลับประเทศไปแล้วทั้งหมด 5,414 คน
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน จะเดินทางมาด้วย แต่ให้ทางนายเฉิน เจี้ยนเฟิง ไปแทน ส่วนกำหนดการนอกจากไปที่จังหวัดเมียวดีแล้ว หลังจากข้ามกลับมายังพื้นที่อำเภอแม่สอด ทางคณะได้เดินทางไปดูพื้นที่ชายแดนฝั่งอำเภอแม่สอด บ้านแม่กึ๊ดใหม่ ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นเมืองชเวก๊กโก่ แหล่งรวมกลุ่มสแกมเมอร์จำนวนมาก และไปที่บ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีเมือง เคเค ปาร์ค ที่เป็นศูนย์แก๊งคอลเซนเตอร์เช่นกัน
ขณะที่การส่งบุคคลต่างชาติจากพื้นที่สแกมเมอร์ออนไลน์ในเมืองเมียวดี ฝั่งประเทศเมียนมา ยังคงดำเนินการอยู่แต่ส่งกลับน้อยมากเนื่องจากติดปัญหาประเทศต้นทาง ไม่ประสานขอรับคนของตัวเองกลับ ล่าสุดมีการส่งกลับชาวต่างชาติแล้วกว่า 9,000 คน รายงานข่าวแจ้งว่าการประชุมในวันนี้จะมีการร่วมมือปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ต่อไปอย่างต่อเนื่อง