บช.น.ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เงินกู้ดอกเบี้ยโหด
จับกุมผู้ต้องหา 28 คน พร้อมหัวหน้าเครือข่ายชาวจีน 2 คน พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท
วันนี้ (4 พ.ย.64) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายของเครือข่ายแอปพลิเคชัน “เงินกู้เซลฟ์เซอร์วิส” ที่หมู่บ้านศุขบุรี-ยิ่งสุข ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ 28 คน พร้อมยึดของกลางคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊กจำนวน 42 เครื่องโทรศัพท์มือถือ 64 เครื่อง อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และอุปกรณ์เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หลายรายการ
จากนั้นจึงเข้าตรวจค้นคอนโดเดอะปาล์ม วงศ์อมาตย์ ต.นาเกลือ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จับกุมผู้ต้องหาชาวจีน เป็นหัวหน้าเครือข่ายเงินกู้ได้อีก 2 คน เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 กล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีบัญชีที่เกี่ยวข้องมากกว่า 100 บัญชี มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนขออายัดบัญชีแล้ว 39 บัญชี ปลายทางของเงินอยู่ที่ชายชาวจีน 4 ราย คาดว่าจะเป็นนายทุน ซึ่งหลบหนีการจับกุมไป 2 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
โดยผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์แจ้งความที่ สน.ฉลองกรุงเมื่อเดือนก่อน หลังกู้ยืมเงินผ่านแอปฯ “เงินกู้เซลฟ์เซอร์วิส” ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย.64 วงเงินประมาณ 200,000 บาท โดยระยะเวลา 1 สัปดาห์ได้ชำระหนี้คืนรวมดอกเบี้ยเป็นเงิน 450,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมากกว่าร้อยละ 50 ทั้งนี้ยังมีพฤติกรรมการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ด้วยการโทร และแชทสนทนาทางออนไลน์กับผู้กู้ และทวงหนี้ผ่านญาติทำให้เกิดความหวัดกลัว
จากการสอบปากคำยังพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาสื่อสารภาษาไทยได้ไม่ดี รหัสเลขบัตรประชาชนตัวแรกยังระบุว่า มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคเหนือ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ ต.เทอดไทย และ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งจะสืบสวนขยายผลต่อไปว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด และธุรกิจฟอกเงินในพื้นที่ภาคเหนือหรือไม่
พล.ต.ท.สำราญ ย้ำเตือนประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีหรือขายข้อมูลส่วนตัวให้ผู้อื่นใช้เปิดบัญชี ว่าอาจมีความผิดตามกฎหมาย ขณะเดียวกันประชาชนที่สมัครใจทำงานกับบริษัทเงินกู้ดอกเบี้ยโหดก็อาจจะมีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน