‘อัจฉริยะ’ ร้อง บช.น.ปมบ่อนพื้นที่ สน.สุทธิสาร หวังย้าย 5 เสือเหมือนพื้นที่อื่น

วันนี้ (4 มิ.ย. 65) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้พิจารณามีคำสั่งย้าย 5 เสือ สน.สุทธิสาร จากกรณีการจับกุมบ่อนการพนันขนาดใหญ่ภายในซอยรัชดาภิเษก 18

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากกรณีการจับกุมบ่อนการพนันที่ซอยรัชดาภิเษก 18 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ สน. สุทธิสาร โดยเป็นการจับกุมของตำรวจ 191 นั้น ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว เมื่อมีการจับกุมบ่อนการพนันในพื้นที่ใดก็ตาม 5 เสือของสถานีตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่นั้นก็จะต้องถูกย้ายไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการ และจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ฐานปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ แต่ในกรณีนี้ เป็นการจับกุมบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ และมีเงินของกลางจำนวนมาก อีกทั้งพื้นที่ที่จับกุมก็อยู่ห่างจาก สน. สุทธิสาร เพียงแค่ 1 กิโลเมตร แต่หลังจากการจับกุม ยังไม่มีการออกคำสั่งย้าย 5 เสือ ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าเรื่องนี้มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า เดิมจะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ แต่คิดว่าผู้บัญชาการตำรวจนครนครบาล เป็นข้าราชการน้ำดีที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา มีความยุติธรรม คงจะไม่เพิกเฉยกับเรื่องนี้ และต้องการให้มีคำสั่งย้าย เพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน และเป็นธรรมกับสถานีตำรวจอื่นๆ เมื่อสั่งย้ายแล้วจะไปตั้งคณะกรรมการสอบสวน หากผิดถูกอย่างไร จะไม่มีการก้าวล่วง

ส่วนสาเหตุที่ไม่มีคำสั่งย้ายออกมาหลังจับกุมนั้น นายอัจฉริยะ ระบุว่า ได้รับการยืนยันจากผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าจะไม่มีการสั่งย้ายทั้ง 5 เสือ และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2

กรณีทนายชนบทจะไปแจ้งความหมิ่นประมาทตนนั้น นายอัจฉริยะ ระบุว่า ถ้าจะไปแจ้งผมก็ไปแจ้งเลย อย่าคิดว่าเป็นทนายแล้วจะทำฟ้องใครหรือแจ้งความใครก็ได้ กฎหมายไม่ใช่ว่าจะใช้มารังแกคนอื่นได้ เพราะขอถามหน่อยว่าสิ่งที่พูดหมายถึงเขาหรือไม่ เขาเป็นลุงขี้เมาหรือไม่ และมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด อายุ 71 ปีก็ติดคุกได้ ซึ่งตำรวจจะไม่รับแจ้งความเพราะไม่มีสาระอะไร และถึงจะรับแจ้งก็ทำอะไรไม่ได้ และก็เชื่อว่าตำรวจไม่กล้าออกหมายเรียกด้วย เพราะถ้าออกหมายเรียกก็ต้องดูว่าข้อความนั่นหมิ่นหรือไม่หมิ่นอย่างไร

ส่วนคดีแตงโมนั้น นายอัจฉริยะ ระบุว่า ยังไม่เคลื่อนไหวอะไรในช่วงนี้ เพราะต้องรอท่าทีของแม่แตงโมก่อนว่าจะถอนคดีหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าแม่จะไม่ถอน เพราะถ้าเขาจะถอนคงถอนไปนานแล้ว และคนที่มาอ้างว่าจะเข้าไปทำคดีแตงโมไม่มีศักยภาพและไม่มีข้อมูลอยู่ในมือเลย แต่เรามีข้อมูลมีการทำงานทุกวันเกี่ยวกับคดีแตงโม และหากไม่มีการถอนฟ้อง ตนจะเดินหน้าขอหมายศาลเพื่อขอหลักฐานต่าง ๆ รวมถึงวัตถุพยาน ส่วนถ้าหากแม่แตงโมถอนคดีเรื่องก็จบ และเชื่อว่าในวันที่ 7 กรกฎาคม อัยการจะยังไม่มีคำสั่งฟ้องคนบนเรือและน่าจะเลื่อนคำสั่งฟ้องอีกครั้ง