รมว.ดีอีเอส เร่งดำเนินการ พ.ร.ก.อาชญากรรมไซเบอร์ มั่นใจ ช่วยลดปัญหาอาชญากรรมออนไลน์
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเร่งดำเนินการตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยมีการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
สำหรับธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย เชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบกลาง เพื่อยับยั้งธุรกรรมต้องสงสัยได้ทันทีด้วยระบบอัตโนมัติ (Automation) ยับยั้งการโอนเงินทุกธนาคารที่รับโอนเงินต่อเป็นการชั่วคราว หลังแจ้งธนาคาร ให้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน หรือผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ภายใน 72 ชั่วโมง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมรองรับระบบการรับแจ้งความออนไลน์ และเร่งจับกุมผู้กระทำความผิดฐานเกี่ยวกับบัญชีม้าและซิมม้ามาดำเนินคดี โดยบทลงโทษสูงสุดของผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักงาน กสทช. อยู่ระหว่างจัดเตรียมระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ สนับสนุนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ เพื่อนำมาใช้ประกอบการดำเนินคดีและจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษ พร้อมร่วมมือกับกระทรวงดีอีเอส ปิดกั้นข้อความและเบอร์โทรศัพท์ที่เข้าข่ายหลอกลวงผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
สำนักงาน ปปง. แต่งตั้งคณะทำงานกำหนดรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงที่ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยมีการกำหนดรายชื่อประเภทรายชื่อบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐาน ซึ่งมีรายชื่อผู้กระทำผิดราว 1,000 รายชื่อ ให้สถาบันการเงินเฝ้าระวังและป้องกันการทำธุรกรรมการเงินที่อาจสร้างความเสียหายต่อไป
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งใจในการแก้ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเร่งจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งช่วยบรรเทาการสูญเสียทรัพย์ได้แน่นอน
