วสท.เตรียมเจาะอาคารถล่มช่วยผู้รอดชีวิต หลังพบสัญญาณชีพ 1 ราย – มีรายงานพบผู้ติดค้างอีก 4 ราย เสียชีวิตแล้ว 3 ราย
จากกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 เม.ย. 64) ส่งผลให้ตัวอาคารทรุดลงมา โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านปลูกสร้างด้วยปูน ลักษณะเป็นอาคารสูง 3 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดมสายยางฉีดน้ำเข้าระงับเพลิง และสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว
ทั้งนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่ พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า แนวทางดำเนินการหลังจากตึกถล่มลงมาลักษณะนี้ ต้องตรวจสอบว่าจุดใดที่โครงสร้างเสถียร จึงจะส่งเจ้าหน้าที่ไปจุดนั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ติดอยู่ภายใน โดยการดำเนินการหลังจากนี้ต้องไม่ทำให้โครงสร้างของตึกสูญเสียเสถียรภาพจากที่เป็นอยู่เดิม ซึ่งไม่สามารถนำอิฐหรือปูนที่ขวางทางออกมาได้เพราะจะทำให้เกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ด้านใน
ทั้งนี้ ล่าสุดจากการคาดการณ์ตอนนี้คาดว่ามีการตรวจพบสัญญาณชีพอยู่ 1 จุด ฉะนั้น เพื่อเป็นการยืนยันจะต้องเจาะลงไปในจุดนั้น นายธเนศยอมรับว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้การช่วยเหลือผู้ติดอยู่ภายในเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากอาคารมีหลายชั้น และมีการทับถมกันลงมา ความยากลำบากอยู่ตรงที่ไม่ทราบว่าผู้ติดอยู่ภายในอยู่จุดใด จึงไม่สามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรงจุดนั้นได้ และจะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแนวทางที่เป็นไปได้ขณะนี้คือการส่งเจ้าหน้าที่จากด้านบน เพราะด้านหลังถึงแม้จะเข้าไปได้แต่ยังมีเพลิงไหม้ลุกอยู่ และเมื่อเพลิงสงบจะสามารถเข้าไปได้ แต่ต้องทำการเจาะแบบเบาเท่านั้น เพื่อให้โครงสร้างไม่ได้รับแรงสั่นสะเทือน จากข้อมูลเบื้องต้น คาดว่าผู้ติดอยู่ข้างในมีราว 5 คน ซึ่งมี 2 คนคาดว่าเสียชีวิต อีก 3 คนยังไม่ทราบสัญญาณชีพ
อย่างไรก็ตามสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดจะต้องเร่งช่วยเหลือผู้ติดอยู่ภายในก่อนและไม่ถึงขั้นต้องอพยพประชาชนที่อาศัยบริเวณใกล้เคียง เพราะลักษณะการถล่มเอนมาด้านหน้า แต่หากสถานการณ์ไม่ปลอดภัยจะมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่เสียชีวิต 3 ราย คือ นายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี นายสมัชญา นิลธง อายุ 48 ปี และนายอรรถพล ถ้วมทอง อายุ 26 ปี โดยสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้เพียง 1 ราย อีก 2 ราย ยังติดอยู่ใต้อาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้เครื่องมือหนักเข้าพื้นที่เพื่อเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตและผู้ยังคงติดอยู่ข้างในได้ เนื่องจากเกรงว่าโครงสร้างส่วนที่เหลือจะเสียหายและถล่มทับลงมาอีก จึงได้ใช้เครื่องมือขุดเจาะบริเวณด้านข้างแทน จากการประสานมูลนิธิที่มาร่วมลงพื้นที่วันนี้พบว่ายังไม่มีรายงานเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิใดที่หายไป สำหรับสาเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ ส่วนการช่วยแหลือครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้ประสบภัยโดยมอบให้แก่ทายาทเพื่อนำไปใช้ในการจัดการศพ และชดเชยในความสูญเสียต่อไป
