ตำรวจ ปส.แถลงจับกุม ขยายผลยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด รวมมูลค่า 230 ล้านบาท

รองผบ.ตร. แถลงข่าว จับกุมขยายผลยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด รวมมูลค่า 230 ล้านบาท เผย เตรียมออกหมายจับเพิ่มเติม และเน้นทำงานแบบบูรณาการ

วันนี้ (3 ม.ค. 66) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บังคับบัญชาตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. แถลงข่าวขยายผลการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการ เด็ดปีกมาร 66/1 เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.ชินภัทร ระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2564 ต่อเนื่องปี 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 ได้ทำการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่ กทม. ต่อเนื่องปริมณฑลหลายคดี และได้ขยายผลจนทราบถึงแหล่งที่พักยาเสพติดอยู่ในพื้นที่เขตตอนเมืองกระทั่งสามารถจับกุมคนจำหน่ายได้พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้าได้ประมาณ 1 ล้านเม็ด และขยายผลต่อ จนทราบถึงเครือข่ายและสามารถจับกุมคนทำหน้าที่ธุรกรรมทางการเงินพร้อมตรวจยึดทรัพย์สินได้รวมมูลค่าประมาณ 75 ล้านบาท

“จากนั้นได้ขยายผลอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่การออกหมายจับนายฉัตรชัย หรืออาฟู่ ผู้สั่งการและผู้ทำหน้าที่ต่างๆ ในเครือข่าย และทำการสืบสวนมาโดยตลอดกระทั่งการเปิดปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมเครือช่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 ราย คือ นายสุวัฒน์ระดับผู้สั่งการ, นางมยุรีย์ เป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงิน, นายธนโชติ และ นายนนท์ เป็นผู้ค้าในพื้นที่ ส่วนในพื้นที่ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จับกุมได้ 1 คน คือ นายเปรมปวริศ มีหน้าที่ทำธุรกรรมทางการเงิน และในพื้นที่
จังหวัดกาญจนบุรี จับกุมนายจตุรพร ซึ่งเป็นผู้ค้าในพื้นที่ ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา กระทำผิดฐานสมคบกันฯ เพื่อกระทำการความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ, สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดและรับเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดฯ”

พล.ต.อ.ชินภัทร กล่าวอีกด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.4 ยังได้ทำการยึดอายัดทรัพย์สินที่คาดว่าจะได้มาจากการค้ายาเสพติดหลายรายการในหลายพื้นที่ ทั้งบ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งสิ้น 16 หลัง มูลค่าประมาณ 115,000,000 ล้านบาท, โฉนดที่ดิน 9 แปลง มูลค่าประมาณ 94,000,000 ล้านบาท, รถยนต์ 7 คัน มูลค่าประมาณ 8,500,000 บาท, ทองคำแท่งมูลค่าประมาณ 11,000,000 บาท, ทองรูปพรรณมูลค่าประมาณ 630,000 บาท, เงินสด 1,300,000 บาท, เงินที่อายัดจากบัญชีจำนวน 1,300,000 บาท และทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกา โดยรวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ ประมาณ 230 ล้านบาท

“ขณะนี้จะเร่งขยายผลอย่างต่อเนื่อง พร้อมออกหมายจับเพิ่มเติมผู้บงการ หรือพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่แล้ว และยังมีอีกหลายคนที่ต้องออกหมายจับเพิ่ม ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหามีการขนส่งยาเสพติดประเภทยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำมาใช้จำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นเครือข่ายใหญ่อีกหนึ่งเครือข่าย นอกจากนี้มองว่าเราจับกุมยาเสพติดได้มากขึ้น ไม่ใช่ยาบ้าเยอะขึ้น เพราะเราดำเนินการแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”