จับกุม 2 ผู้ต้องหา อ้างรู้จัก จนท.กองปราบ หลอกโอนเงินช่วยคดีปลอมป้ายภาษีรถ
ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุม 2 ผู้ต้องหา อ้างรู้จักเจ้าหน้าที่กองปราบปราม หลอกโอนเงินช่วยคดีปลอมป้ายภาษีรถ
วันนี้ (1 ธ.ค. 66) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นายภาณุรักษ์ อายุ 29 ปี และนายธเนศ อายุ 43 ปี สองผู้ต้องหาแอบอ้างรู้จักเจ้าหน้าที่กองปราบปราม สามารถวิ่งเต้นช่วยคดีปลอมป้ายภาษีรถยนต์ และปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ได้
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามจับกุมกลุ่มคนร้ายปลอมป้ายภาษีรถยนต์ และปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ จนสามารถตรวจยึดรถยนต์หรูหลายสิบคันในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ต่อมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างรู้จักกับเจ้าหน้าที่ปราบปราม อ้างว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีและขอคืนรถยนต์ที่ตรวจยึดได้ โดยมีนายภาณุรักษ์เป็นผู้ติดต่อไปหาผู้เสียหาย
นายภาณุรักษ์ กระทำร่วมกันกับนายธเนศ โดยหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันไลน์ว่าจะต้องเสียค่าดำเนินการเป็นจำนวน 1 ล้านบาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินค่าดำเนินการครั้งแรกเป็นจำนวน 1 แสนบาท ต่อมาผู้เสียหายเริ่มสงสัยจึงติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ป. และ กก.6 บก.ป. จนทราบว่าคดีที่ตรวจยึดรถยนต์ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนตามกฎหมาย ไม่มีการให้การช่วยเหลือทางคดี จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.
ภายหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ป. และ กก.6 บก.ป. จึงร่วมกันสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมจับกุมนายภาณุรักษ์ ที่บริเวณ ถ.จตุโชติ เขตสายไหม กรุงเทพฯ และนายธเนศ บริเวณ ถ.ลาดพร้าววังหิน เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือได้จูงใจเจ้าพนักงาน โดยทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด, ร่วมกันกรรโชก และร่วมกันฉ้อโกง”
เบื้องต้น นายภาณุรักษ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายธเนศให้การภาคเสธโดยรับว่าร่วมพุดคุยเพื่อหลอกลวงผู้เสียหายจริง แต่ไม่รู้เห็นเรื่องการรับเงินจากผู้เสียหาย หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่านายธเนศมีหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย คือ หมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 431/2565 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์” นอกจากนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองรายอยู่ในกลุ่มเครือข่ายค้ารถยนต์มือสองและรถหลุดจำนำ อาศัยโอกาสที่ผู้เสียหายถูกเจ้าหน้าตรวจยึดรถยนต์มาแอบอ้างเพื่อหลอกลวงหวังเอาทรัพย์สินจากผู้เสียหาย
