ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุกลูกสาวอาม่าฮวย 12 ปี ไม่รอลงอาญา
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกลูกสาวอาม่าฮวย 12 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานลักทรัพย์
วันนี้ (1 พ.ย. 65) ศาลอาญาพระโขนง อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุกนางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวอาม่าฮวย ศรีวิรัตน์ เป็นเวลา 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา
คดีนี้ สืบเนื่องจากอาม่าฮวย มีบัญชีเงินฝากอยู่ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีสวนหลวง และถนนศรีนครินทร์(อุดมสุข) จำนวน 24,000,000 บาท ถูกนางมาวดี ถอนออกจากบัญชี ไปซื้อกองทุนในนามตนเอง รวมถึงซื้อประกันชีวิตในนามตนเอง และยังโอนเข้าบัญชีตนเอง เป็นจำนวน 24,000,000 บาท
อาม่าฮวย ได้ฟ้องนางมาวดี เป็นคดีอาญา ที่ศาลอาญาพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ อ.1668/2563 ในข้อหาลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,334 โดยศาลอาญาพระโขนง ได้คำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 ปี จำนวน 6 กระทง รวมจำคุก 12 ปี
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว การกระทำความผิดของจำเลยเป็นการกระทำต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุพการีโดยใช้โอกาสที่จำเลยเป็นผู้ดูแลระหว่างโจทก์เจ็บป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งเงินที่จำเลยลักไปเป็นเงินจำนวนสูงมาก นับเป็นเรื่องร้ายแรง ดังนั้นแม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน กรณีก็ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ
จำเลยยื่นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ ได้วินิจฉัยว่า จำเลยอาศัยความป่วยเจ็บของโจทก์ พาโจทก์ไปเบิกเงินยังธนาคารต่างๆ โดยที่โจทก์ไม่ยินยอม ซึ่งการยักย้ายถ่ายโอนเงินของโจทก์ เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นการทุจริต ผิดวิสัยของผู้เป็นบุตร ที่พึงกตัญญูรู้คุณมารดา จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลย 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา