CRIME

พี่สาว ‘ชูวงษ์’ ยื่นหนังสือกรมราชทัณฑ์ ให้บังคับโทษประหาร ‘บรรยิน’ ตามคำพิพากษาศาลฎีกา

พี่สาว ‘ชูวงษ์’ ยื่นหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ ให้บังคับโทษประหาร ‘บรรยิน’ ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ทั้ง 2 คดี

วันนี้ (1 ส.ค. 67) ที่กรมราชทัณฑ์ นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของ นายชูวงษ์ แช่ตั้ง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่สั่งประหารชีวิตสถานเดียว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต สส.นครสวรรค์ หลายสมัย ก่อเหตุฆาตกรรมนายชูวงษ์ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 58 โดยมี นายสมภพ สังคุดแก้ว รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้รับคำร้อง

นางวันเพ็ญ กล่าวว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิตนักโทษคนนี้ ซึ่งเป็นนักโทษที่มีคดีประหารชีวิตทั้งสองคดี ในส่วนของคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 67 ในคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์เพื่อปิดบังซ่อนเร้นการโอนหุ้น และคดีอุ้มฆ่าพี่ชายของผู้พิพากษา ซึ่งผู้พิพากษาทำคดีเกี่ยวกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์จะเห็นว่า คดีนี้ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นนักโทษเด็ดขาดที่ศาลฎีกาสั่งประหารชีวิตติดกัน และคดีทั้งหมดที่ตัดสินแล้วห้าคดี เป็นนักโทษที่ทำผิดซ้ำซาก ก่อเหตุร้ายแรง มีคดีโกงหุ้นอีก 8 คดีที่ ปปง. เกี่ยวกับฟอกเงินอีก 20 ปี

นอกจากนี้ ในช่วงที่อยู่ในเรือนจำ ยังก่อเหตุแหกคุก ขู่อุ้มภรรยาผู้บัญชาการเรือนจำ ซึ่งในคดีแหกคุกศาลตัดสินลงโทษจำคุกอีก 3 ปี รวมโทษในคดีอาญาทั้งหมด 5 คดี จึงทำหนังสือชี้แจงให้กับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ดูว่า นักโทษรายนี้ควรจะได้รับโทษตามคำพิพากษาของศาล

นางวันเพ็ญ กล่าวอีกว่า ในช่วงเวลา 10 ปี มีนักโทษประหารที่ถูกประหารจริงเพียงแค่ 1 คน คือ เมื่อปี 2561 นอกนั้นไม่เคยมีใครได้รับการประหารจริง แม้ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาประหารชีวิตไปกี่คดีก็ตาม จึงมีความกังวลว่านักโทษรายนี้เป็นนักโทษที่ ก่อคดีร้ายแรง ซึ่งกองปราบปรามใช้ทรัพยากรเยอะมากกว่าจะสืบคดี และหาพยานหลักฐานได้ กองปราบปรามทำหน้าที่เป็นอย่างดี อัยการหน้าที่ก็ทำแล้ว ผู้พิพากษาทุกศาลได้ตัดสินไปในทิศทางเดียวกัน ก็อยากให้กรมราชทัณฑ์ยึดถือคำพิพากษาของศาลฏีกาถึงที่สุด ขอให้ประหารชีวิตนักโทษรายนี้ตามคำพิพากษา

ส่วนกรณีที่นักโทษจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษก็ถือเป็นสิทธิ์ คงไม่ก้าวล่วง แต่สิ่งที่นักโทษจะได้อภัยโทษต้นทางต้องมาจากกรมราชทัณฑ์ในการจัดชั้นนักโทษว่าระดับไหน จึงทำหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เรียบเรียงคดีและพฤติการณ์ รวมทั้งคำพิพากษาถึงที่สุดของนักโทษรายนี้ ให้กรมราชทัณฑ์ทราบว่านักโทษรายนี้สมควรที่กรมราชทัณฑ์จะทำหนังสือเสนอไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว

ด้านโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรณีของผู้ต้องขังที่ได้รับโทษคำพิพากษาจากศาลว่าประหารชีวิต ตามขั้นตอนในทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์จะให้ผู้ต้องขังยื่นทูลเกล้าถวายฎีกาตามสิทธิ์ของผู้ต้องขังภายใน 60 วัน กรมราชทัณฑ์จะรวบรวมเอกสารทั้งหมดส่งไปตามความต้องการของผู้ต้องขัง ทั้งนี้ในส่วนของนักโทษเด็ดขาดที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิต มีอยู่ประมาณกว่า 300 คน ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์ที่จะยื่นทูลเกล้าถวายฎีกาตามกรอบของกฎหมาย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat