ป.ป.ส. – ทัพเรือ จับกุมเครือข่ายลักลอบขน ‘ไอซ์’ กว่า 900 กก. กลางทะเลอ่าวไทย

ป.ป.ส.ร่วมทัพเรือ แถลงจับกุมเครือข่ายลักลอบขน ‘ไอซ์’ กว่า 900 กก. กลางทะเลอ่าวไทย พร้อมขยายผลตรวจค้นเพิ่ม 7 จุด ยึดของกลางมูลค่า 5.2 ล้านบาท ด้าน ‘วิชัย’ เชื่อ ยาเสพติดประเภทนี้ใช้ประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่าน
วันนี้ (1 มิ.ย. 66) เวลา 10:00 น. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเรือบรรทุกลักลอบขนไอซ์จำนวน 909 กก. พร้อมผู้ต้องหา 6 คน ซึ่งถูกจับกุมได้กลางทะเลอ่าวไทย ทิศใต้ของเกาะเสม็ด จ.ระยอง
นายวิชัย กล่าวว่าการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ส. สืบทราบข้อมูลทางการข่าวว่าเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ มีพฤติการณ์ใช้เรือประมงขนาดกลาง ลักลอบลำเลียงยาเสพติดประเภท ไอซ์ และ เฮโรอีน (ระดับ 1,000 กก.) ไปส่งต่อให้เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ กลางทะเลอ่าวไทย จึงได้สั่งการให้ นาย ปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด นำชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรีย์ 19 บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) และกองบัญชาการกองทัพไทย สืบสวนติดตามพฤติการณ์ของขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งการสืบสวนใช้เวลาร่วม 4 เดือน ในการติดตามพฤติการณ์ของเครือข่ายดังกล่าว
ต่อมา วันที่ 30 พ.ค. 2566 ชุดสังเกตการณ์พบเหตุต้องสงสัย โดยเครือข่ายนี้จะมีการลำเลียงถังสแตนเลสเปล่า สำหรับบรรจุน้ำมัน และเสบียงอาหาร เข้าใต้ท้องเรือ เพื่อเตรียมการสำหรับภารกิจบางอย่าง ชุดปฏิบัติการจึงวางเวรยาม 24 ชม. เพื่อสังเกตการณ์
กระทั่งเวลา 20.45 น. พบรถกระบะนำกระสอบสีขาวจำนวนมากเข้าพื้นที่และลำเลียงกระสอบลงเรือ ก่อนออกเรือในเวลาต่อมา สำนักงาน ป.ป.ส. นำโดย ชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรีย์ 19 ร่วมกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) และกองบัญชาการกองทัพไทย จึงออกติดตามและเข้าจับกุมเรือสินค้า (สงวนชื่อ) บริเวณกลางทะเลอ่าวไทยทางทิศใต้ของเกาะเสม็ด อ.แกลง จ.ระยอง (ห่างจากชายฝั่ง 20 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 37.04 กิโลเมตร) พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 6 คน และยึดไอซ์ได้จำนวน 909 กก.
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจค้นเพิ่มเติมอีก 7 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.ระยอง 5 จุด และ กทม. 2 จุด โดยยึดเรือประมงขนาดกลาง 1 ลำ รถยนต์ 6 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน สมุดบัญชีธนาคาร บัตร ATM และทรัพย์สินอื่นๆ รวม 19 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 5.2 ล้านบาท และได้เข้าตรวจสอบบ้านเช่าที่ใช้เก็บพักไอซ์ในพื้นที่ จ.ระยอง ภายในบ้านพบถุงกระสอบที่ผู้ต้องหาแกะยาเสพติดออก และกระสอบที่เตรียมแพ็คใส่ ก่อนส่งทางเรือ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าลำเลียงยาเสพติดของกลางมาจาก กทม. ก่อนส่งลงเรือที่ จ.ระยอง และพบคีตามีน 1 ถุง (สำหรับใช้เสพ) นอกจากนี้ผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของเรือได้ให้การว่า ยาเสพติดเตรียมลำเลียงส่งต่อเรือเหล็กขนาดใหญ่กลางทะเล ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ายาเสพติดดังกล่าวเตรียมส่งต่อไปยังประเทศออสเตรเลีย
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จะมีการสืบสวน เพื่อขยายผลยึดทรัพย์สินเครือข่ายนี้ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงข้อมูลปลายทางที่ยาเสพติดจะถูกส่งไปเพื่อประสานงานกับประเทศปลายทาง ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติในการจัดการกับเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ที่ต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลีย ซึ่งพบการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศไทยไปออสเตรเลียบ่อยครั้ง ซึ่งจะต้องจับตาการขนส่งในทุกช่องทางทั้งบก-น้ำ-อากาศ ควบคู่กับการขยายผลเครือข่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศต่อไป
อย่างไรก็ดี นายวิชัย กล่าวอีกว่า จากการพิสูจน์ของ ป.ป.ส. เชื่อได้ว่ายาเสพติดพวกนี้ ไม่ได้ใช้ในประเทศไทย ยาเสพติดที่จับได้เยอะๆ แบบนี้ เป็นการนำออกประเทศที่ 3 ทั้งหมด โดยใช้บ้านเราเป็นเพียงทางผ่าน ส่วนบ้านเราใช้ยาบ้าอย่างเดียว


