คดี “ลัลลาเบล” คืบ 80% ใช้แชทลับประกอบการพิจารณา คาดจะชัดเจนขึ้นภายใน 48 ชม. หลังได้ผลชันสูตร
พล.ต.ต. สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เปิดเผยหลังการประชุมคดีการเสียชีวิตของ นางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ “ลัลลาเบล” ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปประมาณ 80% แล้ว โดยวันนี้ได้เรียกประชุมพนักงานสืบสวน เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมดกันนี้ได้สั่งการให้ผู้กำกับสน.บุคคโลไปพบแพทย์ นิติเวช เพื่อสอบถามผลชันสูตรศพของผู้เสียชีวิตเป็นเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อนำมาประกอบสำนวน นำไปยืนยันกับศาลเพื่อขอหมายจับต่อไป
สำหรับ กรณี แชทลับของผู้ต้องสงสัย ที่เผยแพร่กันอยู่ในโลกโซเชียล ได้สั่งการให้รองผู้การนครบาล 8 ไปทำหน้าที่รวบรวมมาให้ได้ทั้งหมด โดบแชทดังกล่าว นับเป็นพยานแวดล้อมที่บ่งบอกพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัย ทั้งเรื่องการมอมเหล้า และข้อความอื่นๆ ว่าจะเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตหรือไม่ โดยตำรวจยังต้องรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ มาพิจารณาประกอบกัน
“การทานเหล้าทานกันยังไง พฤติกรรมการทานเหล้าเป็นยังไง เราสอบเอาไว้ในสำนวนแล้ว และก็เป็นประเด็นที่เราจะต้องพิสูจน์ทราบอย่างไรให้ผู้พิพากษาท่านเชื่อว่าการ “จัดหนัก” อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ เป็นอันตราย หรือถึงแก่ชีวิตได้หรือไม่ เรื่องจัดหนักก็เป็นเรื่องที่เราพิจารณาด้วยครับ” พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าว
พร้อม ยืนยันว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อน คาดว่าไม่เกิน 48 ชั่วโมงหลังจากได้ผลชันสูตร คดีจะชัดเจนขึ้น และคาดว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องได้ต่อไป โดยทางพนักงานสอบสวนได้เตรียมการพิจารณาข้อหาที่จะแจ้งไว้แล้ว ส่วนเรื่องการที่ผู้ต้องสงสัยให้การว่าได้ช่วยเหลือด้วยการนำน้ำเย็นมาลูบใบหน้านั้นจะเข้าข่ายให้การช่วยเหลือแล้วหรือไม่ ในเรื่องนี้ยังคงต้องมาจำกัดความในข้อหานี้ก่อน ว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาไม่ให้การช่วยเหลือหรือไม่
ส่วนกรณี เพื่อนผู้ตายตั้งข้อสงสัยว่าผู้ตายโดนยา GHB ซึ่งเป็น สารละลายน้ำ ออกฤทธิ์กดจิตประสาทที่ตรวจไม่เจอ พลตำรวจตรีสัมฤทธิ์ ยืนยันว่าแพทย์นิติเวช ตรวจเจอแน่นอน เพราะสารอันตรายเมื่อกินเข้าไป ต้องมีการตกค้างแน่นอน
