BANGKOK

‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง ‘ชัชชาติ’ สอบเอกชน เรียกเก็บค่าผ่านทางสะพานข้ามคลองพระโขนง

วันนี้ (27 มี.ค.66) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีการการสร้างสะพานข้ามคลองพระโขนง บริเวณซอยสุขุมวิท 77 เพื่อออกสู่ถนนปรีดีพนมยง 2 ซึ่งเป็นถนนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ภายหลังมีการสร้างเสร็จ ปรากฏพบมีการตั้งป้อมเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางมาตั้งแต่ปี 2558 โดยรถยนต์ อัตรา 20 บาท และรถจักรยานยนต์ อัตรา 10 บาท ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า บริษัท แสนสิริ ขออนุญาตสำนักการโยธา กทม. ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยขนาดใหญ่พิเศษ 2 โครงการ รายงาน EIA ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการแล้วทั้ง 2 โครงการ โดยระบุไว้ในรายงานว่า การดูแล บำรุงรักษา ถนนภาระจำยอมบนโฉนดที่ดิน 8 แปลง และสะพานข้ามคลองพระโขนง ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคริมถนน หากเกิดกรณีสะพานชำรุดเสียหาย นิติบุคคลอาคารชุดจะเป็นผู้ดำเนินการประสานไปยังสำนักงานเขตวัฒนา เพื่อซ่อมแซมด้วยค่าใช้จ่ายของบริษัทที่ถือครองกรรมสิทธิ์เองทั้งสิ้น รวมทั้งรับผิดชอบค่าไฟฟ้าส่องสว่างที่เกิดขึ้นในที่ดินภาระด้วย ซึ่งในการขออนุญาตก่อสร้าง บริษัท แสนสิริ นำที่ดินถนนภาระจำยอมมายื่นร่วมในการขออนุญาตก่อสร้าง

รวมทั้งเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินภาระจำยอมทั้ง 8 แปลง ได้ยินยอมให้บุคคลทั่วไป สามารถเข้าใช้ประโยชน์ถนนภาระจำยอม เพื่อเป็นเส้นทางลัดเชื่อมระหว่างถนนซอยสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ผ่านถนนของการทางพิเศษฯ ออกสู่ถนนซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ได้ และต้องแจ้งให้บุคคลภายนอกทราบว่า ถนนภาระจำยอมเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถสัญจรได้ ซึ่งสอดคล้องกับข้อ 14 ของระเบียบ กทม.ว่าด้วยการขออนุญาตก่อสร้างสะพานข้ามคลอง 2549

แต่เมื่อเปิดใช้สะพานดังกล่าวตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา กลับมีการตั้งป้อมเรียกเก็บเงินค่าผ่านสะพานและถนนภาระจำยอมดังกล่าวจำนวน 10-20 บาทมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาทแล้ว

ดังนั้นสมาคมฯ จึงขอให้ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจสอบกรณีดังกล่าว พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่า ปล่อยปละละเลยให้มีการเรียกเก็บค่าผ่านทางได้อย่างไร มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทดังกล่าวหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ บริษัทจดทะเบียนภาระจำยอมกับทางกรมที่ดินแล้ว พร้อมทั้งให้ยุติการเรียกเก็บค่าผ่านทาง ตลอดจนให้ยึดเงินเรียกเก็บค่าผ่านทาง ตั้งแต่ปี 2558 จำนวน 150 ล้านบาท มาใช้ประโยชน์เพื่อการสาธารณะต่อไป

Related Posts

Send this to a friend