‘ชัชชาติ’ ขออย่าโยงการเมือง ปมเปิดลานคนเมืองให้ชุมนุม

‘ชัชชาติ’ ขออย่าโยงการเมือง ปมเปิดลานคนเมืองให้ชุมนุม ยันทำงานเพื่อคนกรุงฯ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

วันนี้ (22 พ.ย.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 25/2565 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ถึงกรณีการเปิดพื้นที่ลานคนเมืองให้เป็นพื้นที่การชุมนุม ว่า กทม.ได้หารือกับฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เห็นด้วย โดยตั้งแต่มีการอนุญาตให้ใช้ลานคนเมืองเป็น 1 ใน 7 ที่ชุมนุมสาธารณะหลังจากเข้ารับตำแหน่ง 1 เดือน มีคนขอใช้พื้นที่ทั้งหมด 36 ครั้ง 14 ครั้ง เป็นการใช้พื้นที่เกี่ยวกับการเมือง อีก 22 ครั้งเป็นกิจกรรมทั่วไป

ที่ผ่านมาเราเปิดพื้นที่ให้คนแสดงออก ลดความขัดแย้งบนท้องถนน ใช้พื้นที่ลานคนเมืองเป็นพื้นที่แสดงความแตกต่าง และทำให้การวางแผนบริหารจัดการทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ยืนยันว่าสิ่งที่ทำคิดอย่างละเอียดแล้ว อาจมีปัญหากรณีที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิด หากปฏิเสธการขอใช้พื้นที่ กทม.ทำได้ง่ายมาก แต่จะเป็นการโยนภาระให้คนอื่น ยิ่งสร้างปัญหา และรับมือยากขึ้น

นายชัชชาติ กล่าวว่า อาจมีข้อผิดพลาดขึ้นบ้าง ถือเป็นบทเรียนที่ต้องพัฒนาขึ้น ปัญหาคือคนออกจากพื้นที่ไปยื่นหนังสือ อนาคตอาจจะจัดให้ 2 ฝ่ายมาเจอกัน ยกตัวอย่าง หากมีการประชุมที่มีตัวแทนจากต่างประเทศมาก็เชิญมาเจอที่ลานคนเมือง หรือจัดตัวแทนของผู้ชุมนุมไปยื่นข้อเสนอให้กับคนที่อยากเจอ เพื่อลดความขัดและการเคลื่อนไหว ซึ่งหากจะมีผู้ตรวจสอบก็ยินดี เพราะได้ปฏิบัติตามหลักประชาธิปไตย

ส่วนกรณีที่มีการจัดรถสุขาเคลื่อนที่ไปให้กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง คาดว่าน่าจะเป็นการร้องขอ เชื่อว่าหากห้องน้ำไม่พอก็จะเป็นการสร้างภาระให้ทางเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่า ดูแลประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม ขออย่าโยงประเด็นการเมือง มองว่าผู้ชุมนุมก็เป็นคนของ กทม. ตนเองทำงานตรงนี้ก็ทำงานด้วยความเป็นกลาง ไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง มีความเป็นอิสระ สิ่งที่ทำ ก็ทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของ กทม. แม้จะกระทบกระทั่ง แต่ไม่ได้บานปลายกระทบกระเทือนการประชุมเอเปค พร้อมย้ำว่า ไม่ได้สนับสนุนการชุมนุม และไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ส่วนการดูแลผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม เป็นเรื่องของตำรวจในการให้ประกันตัว กทม.มีข้อมูลจากกล้อง CCTV แต่ไม่ได้มีใครร้องขอมา การบริหารจัดการภาพรวมคิดว่าทำได้ดี และอนาคตจะต้องคุยกับฝ่ายความมั่นคงว่าจะปรับปรุงอะไรหรือไม่

“ยืนยันไม่สนับสนุนฝ่ายใด เป็นผู้ว่าฯของทุกคน ดูแลทุกคนเท่าเทียม รับใช้ทุกคนที่เป็นคน กทม. หน้าที่หลักคือ ต้องประคองสถานการณ์ให้ผ่านเอเปคอย่างเรียบร้อย ไม่ให้มีผลกระทบกับการประชุม เชื่อว่าที่ผ่านมาทำได้ดีในระดับหนึ่ง ผมทำงานเป็นตัวแทนของคนกรุงเทพฯ 5 ล้านคนไม่ใช่ตัวแทนของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”